“แวววิวาห์” ในชีวิตจริงคือ ยุ้ย - ฤทัยรัตน์ สาเกทอง ที่คร่ำวอดในเส้นทางสายนี้มานานหลายปี มีผลงานเอาใจ‘โคแก่เคี้ยวหญ้าอ่อน’ เรื่อง“สิงห์เหนือเสือใต้” แท็กทีมนักเขียนอีกท่านคือ“มาณีญา” ภาษาที่ใช้ไม่ค่อยพบบ่อย บางคำเราหลงลืมไปจนเขียนไม่ถูก ส่วนเนื้อหานางเอกแสนพยศ ยั่วยวนหาทางจับพระเอกแบบน่ารัก ไม่ค่อยอ่านแนวนี้เท่าไหร่ แต่พออ่านบอกได้คำเดียว‘สนุก’ นักอ่านที่ชอบการปะทะคารม‘ติดเรท’ ของพระนางห้ามพลาดเล่มนี้ ส่วนเรื่องใหม่“นางร้ายพาร์ทไทม์” กับ “เมื่อรักมาแนบใจ” ในรูปแบบอีบุ๊ค และต้อนรับเดือนแห่งความรัก กับนิยายเรื่อง“ขยี้รักคาสโนว่า” อดใจรอนิดนะ โดยยุ้ย - ฤทัยรัตน์เปิดใจด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ
“ตอนนี้เขียนนิยายเลี้ยงชีพอย่างเดียวค่ะ นามปากกาที่ใช้มี แวววิวาห์, อาคาเซีย, สลิลโรส, ธัญรญา ,แสงโสม, กัณฐมณี, กิรณา, แต้มดาว ค่ะ แรงบันดาลใจเกิดจากหนังสือที่ยุ้ยอ่านค่ะ เคยฝันตั้งแต่ตอนเป็นเด็กว่าอยากมีหนังสือเป็นของตัวเอง เลยลองเขียนบทกลอนส่งสนพ.ใยไหม และเขียนเรื่องสั้นส่งไปที่ขายหัวเราะ แต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้งไป (ฮ่าๆ) ถึงจะถูกปฏิเสธกลับมาหลายต่อหลายครั้ง ความรู้สึกที่อยากมีหนังสือของตัวเองก็ไม่เคยหายไปนะคะ มันเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่ถูกฝังไว้ใต้ดินแล้วรอวันงอกขึ้นมา จนกระทั่งถึงวันที่เมล็ดพันธุ์กะเทาะเปลือกออก วันนั้นยุ้ยเดินเข้าไปในร้านหนังสือเพื่อหาซื้อหนังสือนิยายอ่าน บนชั้นมีนิยายเยอะมากๆ มีให้เลือกจนตาลาย ตอนที่เลือกก็คิดเล่นๆ ว่า ‘อยากให้ในโลกใบนี้มีหนังสือของเราสักเล่ม’ (มันคงเท่ไม่น้อยเลยนะ ฮ่าๆ) พอเมล็ดพันธุ์แห่งความคิดนี้งอกขึ้นมา จำได้ว่ากลับออกจากร้านหนังสือไป ก็เริ่มเขียนนวนิยายทันที แล้วนำไปลงในเว็บเด็กดี นับว่าโชคดีมาก เพราะมีสนพ.ติดต่อเข้ามา นักเขียนที่เป็นไอดอล มีค่ะ เพราะตอนที่เริ่มเขียนนิยาย ยุ้ยไม่มีพื้นฐานอะไรเลย นอกจากรักการอ่านนิยายเท่านั้น รู้แค่ว่านิยายคืออะไร แต่ไม่รู้กลวิธีในการเขียน ก็เลยทำการศึกษาพร้อมลงมือเขียนไปด้วยกัน ตอนนั้นยุ้ยค้นหาใน google ถึง ‘วิธีการเขียนนวนิยาย’ ก็มาเจอกับเว็บ forwriter.com เข้า พอเข้าไปอ่านแล้วรู้สึกว่า ‘มันใช่’ ยุ้ยก็เลยแฝงตัวเป็นนักอ่านเงาอยู่ที่นั่นตลอดมา forwriter.com เป็นบ้านเล็กๆ ที่อบอุ่นให้อะไรยุ้ยมากมาย รวมไปถึงนักเขียนในดวงใจหมายเลข 1 ของยุ้ยก็อยู่ที่นั่นด้วย นั่นคือ พี่ฟี (ฟิลิปดา) ค่ะ นอกจากพี่ฟีจะเป็นแรงบันดาลในใจการเขียนนวนิยายแล้ว พี่ฟียังเป็น‘ครูคนแรก’ ที่ชี้แนะแนวทางให้ยุ้ยรู้จักนวนิยาย และการเขียนนิยายมากขึ้น ส่วนนักเขียนในดวงใจหมายเลข 2 คือ นภาลัย ไผ่สีทอง เพราะยุ้ยหยิบนิยายเรื่องแรกขึ้นมาอ่าน คือหนังสือของท่าน พออ่านงานของท่าน ก็เกิดติดใจขึ้นมา การอ่านเลยขยายวงกว้างมากขึ้น ส่วนนักเขียนในดวงใจหมายเลข 3 คือ เจ๊เก๋ (วรรณิก มาณีญา แพรรวีร์) ในฐานะนักอ่าน ยุ้ยชอบสำนวนภาษามากๆ ถ้าในฐานะพี่สาวร่วมวงการ ที่ยุ้ยรักและเคารพ เจ๊คือต้นแบบของความเพียร ความขยัน ความมีระเบียบวินัย และเจ๊คือกำลังใจสำคัญสำหรับยุ้ยตลอดมาค่ะ ยุ้ยเริ่มหัดเขียนนวนิยายประมาณปี 2549 และได้ตีพิมพ์ครั้งแรกปี 2551 ภายใต้นามปากกา ‘อาคาเซีย’ ซึ่งถ้านับตั้งแต่วันแรกที่หัดเขียนจนถึงวันนี้ก็ก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ค่ะ (1 ทศวรรษเลยเนอะ ทำไมเวลาผ่านไปเร็วจัง) นิยายเรื่องแรกที่ผ่านการพิจารณาได้ตีพิมพ์ คือ ‘มนตร์ทรายใต้เงารัก’ นามปากกา อาคาเซีย สำนักพิมพ์ ซิมพลีบุ๊คเลิฟโนเวล ในเครือเพชรประกาย เป็นนิยายรักโรแมนติกแนวทะเลทราย ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากนักอ่านแบบเกินคาดมากๆ เลยค่ะ เพราะเป็นนิยายเล่มแรกในชีวิตที่ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำถึง 2 ครั้ง (แค่ได้รับการตีพิมพ์ก็ดีใจจนตัวลอยแล้วอะค่ะ ฮ่าๆ) ยุ้ยเขียนหลายแนวค่ะ ที่เคยเขียนมีทั้งแนวทะเลทราย โรแมนติก คอมมาดี้ ดราม่า โรมานซ์ อีโรติกโรมานซ์ และรวมไปถึงแฟนตาซี เหตุผลที่มีหลายนามปากกา เพราะยุ้ยส่งงานให้หลาย สนพ. แอบอวตารไปบ้าง (อิอิ) ซึ่งแต่ละสนพ. นั้น แนวของนิยายจะต่างกันออกไปค่ะ เช่น นามปากกา อาคาเซีย เขียนแนวทะเลทรายเป็นหลัก มีโรแมนติกด้วยเล็กน้อย / สลิลโรส ธัญรญา เขียนโรแมนติก คอมมาดี้ นิยายสีขาว / แสงโสม กัณฐมณี เขียนโรแมนติกดราม่า / แวววิวาห์ กิรณา เขียนโรมานซ์ อีโรติกโดยเฉพาะ ในส่วนของ วาดดาว จะเขียนกลอน เขียนแคนโต้ เรื่องสั้นค่ะ
ยุ้ยคิดว่าทุกอาชีพในโลกที่ประกอบด้วยความสุจริตล้วนแต่น่าภาคภูมิใจและทรงเกียรติทั้งนั้น การเขียนนวนิยายถือเป็นความภาคภูมิใจของยุ้ย (ภูมิใจมาก ใส่กอ.ไก่ไปเยอะๆ เลย อารมณ์ประมาณนางสาวไทยได้รับมงกุฎพร้อมสายสะพาย ฮ่า ๆ) เพราะนอกจากจะเป็นอาชีพที่รักแล้ว ‘จินตนาการกินได้’ เป็นเรื่องจริง จินตนาการที่จับต้องไม่ได้นั้น สามารถเลี้ยงดูครอบครัวและตัวเราได้ ย้ำว่า ‘เลี้ยงตัวเองได้จริงค่ะ’ ที่พูดแบบนี้เพราะตอนที่ยุ้ยตั้งใจจะหันมาเขียนนิยายเต็มตัว ตั้งใจจะใช้ตัวอักษรที่ถ่ายทอดจากภาพในจินตนาการในหัวมาเป็นเรื่องราว เพื่อหาเลี้ยงตัวเอง ยุ้ยเองก็เจอคำสบประมาทจากคนรอบข้าง จากญาติพี่น้องเช่นกัน ‘นักเขียนไส้แห้ง!’ คำนี้เจ็บปวดและสะเทือนใจมากนะ คนรอบข้างไม่เคยมีใครมั่นใจในสิ่งที่ยุ้ยทำเลย เวลาออกไปนอกบ้าน เพื่อนบ้านเจอหน้าก็เอาแต่ตั้งคำถาม ‘อ้าว วันนี้ไม่ทำงานเหรอ?’ ‘หนูทำงานอยู่กับบ้านจ้า’ แล้วคนตั้งคำถามก็จะมองยุ้ยด้วยสายตาแปลกๆ ประมาณว่า งานที่บ้านมีอะไรให้ทำ โตปานนี้แล้ว ยังเป็นลูกชาวเกาะอีก (เกาะพ่อเกาะแม่กิน ฮ่า ๆ) แต่ยุ้ยก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า ‘จินตนาการกินได้จริง ๆ’ การอยู่บ้านสามารถทำงานหาเงินได้ พูดได้เต็มปากเต็มคำ เพราะว่ายุ้ยหาเลี้ยงครอบครัว ดูแลแม่และพ่อ ส่งน้องเรียน และรวมถึงเลี้ยงลูกน้อยด้วยเงินจากการขายนิยายทั้งสิ้น ส่วนนิยายมีเป็นการร่วมเขียนกับพี่นักเขียน ซึ่งมีซีรีส์ร่วมกัน 2 ชุด ซีรีส์ชุดแรก ‘Impatience of Mafia’ เขียนคู่กับ พี่อ้อ (วรดร) ค่ะ เป็นนิยายโรมานซ์มาเฟีย ส่วนซีรีส์ชุดที่ 2 เป็นมินิซีรีส์ ‘สิงห์เหนือเสือใต้’ เป็นนิยายแนวอีโรติก - โรมานซ์ ได้เขียนคู่กับพี่เก๋ (มาณีญา) ค่ะ เหตุผลที่จับมือกับนักเขียนคนอื่นออกเป็นซีรีส์ เพราะอยากลองทำงานร่วมกับเพื่อนนักเขียนท่านอื่นๆ บ้างค่ะ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แลกเปลี่ยนความคิด แล้วก็เพื่อแชร์แฟนคลับร่วมกันค่ะ จากที่เขียนมายังไม่เคยมีกระแสพระรองเด่นกว่าคู่ตัวเอกจ้า เวลาเขียนยุ้ยจะพยายามไม่ให้พระรอง หรือนางรอง โดดเด่นกว่าพระเอก หรือนางเอกในเรื่องที่เขียนอยู่ ยกเว้นก็แต่จะปูพวกเขา (พระรอง นางรอง) เพื่อแยกไปอีกเล่มค่ะ ตลาดนิยายตอนนี้มีการแข่งขันสูงมากค่ะ นักเขียนหน้าใหม่เกิดขึ้นทุกวัน ในตลาดนิยายก็มีนิยายหลากหลายให้นักอ่านได้เลือกบริโภคมากขึ้นค่ะ มีค่ะที่อาชีพนักเขียนทำให้ยุ้ยไปเป็นวิทยากร คือ มีน้องข้างบ้านมาขอสัมภาษณ์ทำโครงงานส่งคุณครู และรวมไปถึงมีคุณครูที่โรงเรียนเคยเชิญให้ไปร่วมบรรยาย แนะนำแนวทางการก้าวสู่เส้นทางนักเขียนให้น้องๆ ที่โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบวิทยาลัย สมุทรปราการ เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ยุ้ยได้ ‘เดี่ยวไมโครโฟนคนเดียว’ พูดให้น้องๆ จำนวน 500 กว่าชีวิตฟัง จำได้ว่าตื่นเต้นมากค่ะ มือไม้เย็นเฉียบ ไม่เคยพูดต่อหน้าที่สาธารณะแล้วมีคนฟังมากขนาดนี้มาก่อน ยุ้ยมีนิยายที่พิมพ์ซ้ำเรื่อง‘มนตร์ทรายใต้เงารัก’ และ ‘มายาทรายใต้แสงจันทร์’ นามปากกา อาคาเซีย ที่ตีพิมพ์ซ้ำครั้งที่ 2 ทั้งคู่ และได้รับค่าตอบแทนในส่วนที่ตีพิมพ์เพิ่ม สำนักพิมพ์ก็จ่ายค่าตอบแทนเพิ่มตามยอดขายค่ะ
นิยายเรื่องล่าสุดที่เพิ่งวางแผงในนามปากกา แวววิวาห์ เรื่อง“เพลิงรักราคีคาว” สนพ. พลอยใส และรูปแบบอีบุ๊คด้วย ตั้งใจไว้ว่าปีหน้าจะนำ‘เจ้ากาเรม’ มนตร์ทรายใต้เงารัก ออกมาปัดฝุ่น พิมพ์ครั้งที่ 3 ค่ะ ส่วนนิยายอีบุ๊คเรื่องล่าสุดคือ “นางร้ายพาร์ทไทม์” นามปากกา แวววิวาห์ กับ “เมื่อรักมาแนบใจ” สลิลโรส ส่วนนิยายที่เตรียมส่งสำนักพิมพ์เรื่อง“เจ้าสาวนอกกรรมสิทธิ์” และปีหน้าที่วางไว้มี “ขยี้รักคาสโนว่า” นามปากกา แวววิวาห์ ในรูปแบบอีบุ๊ค ถ้านักอ่านต้องการติดตามผลงานได้ที่
แวววิวาห์ แฟนเพจ แวว-แววิวาห์ :: https://www.facebook.com/wedding.novel/?fref=ts
อาคาเซีย แฟนเพจ อาคาเซีย – สลิลโรส :: https://www.facebook.com/Rcasia.author/
Facebook : Rcasia marora (ยุ้ย อาคาเซีย) และ แวววิวาห์ นามปากกา
ถามว่านิยายแนวไหนไม่มีวันตาย ยุ้ยคิดว่าทุกแนวค่ะ นิยายคือ ยาวิเศษบำรุงหัวใจ ทำให้เรามีความสุข เวลาเราอ่านหนังสือตัวอักษรจะนำพาเราเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการ นิยายจะยังอยู่ต่อไปตราบที่นักอ่านยังอยู่กับเราค่ะ และต้อนรับปีใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ด้วยนิยายอีบุ๊ค แนวโรมานซ์ของ แวววิวาห์ เรื่อง “ขยี้รักคาสโนว่า” ค่ะ ในส่วนของ อาคาเซีย นั้นจะมีเรื่อง“ดาวแต้มทราย” และ “บรรณาการรักเจ้าสาวแดนทราย” ในรูปแบบอีบุ๊ค และรวมถึงงานปัดฝุ่น “มนตร์ทรายใต้เงารัก” ฝากไว้ในอ้อมใจนักอ่านด้วยนะคะ (แอบขายของ ฮ่าๆ)”
คำถามนิยายของ“แวววิวาห์” ที่จำหน่ายรูปแบบอีบุ๊คเดือนกุมภาพันธ์เรื่อง?
เฉลยคำถามนิยายของ“อักษรามณี” : รักบำเรอแค้น กับ ตรวนสวาทซาตาน
ทราบคำตอบเขียนชื่อ - ที่อยู่และคำตอบ ลงไปรษณียบัตรส่งมาที่ เปิดหน้านักเขียน เลขที่ 369 Chez Nona Court (202) ซ.ลาดพร้าว 23 แขวง จันทรเกษม เขต จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 ผู้ตอบถูก 3 ท่าน ได้รับหนังสือนิยายจาก แวววิวาห์, อาคาเซีย, สลิลโรส, ธัญรญา, แสงโสม ฯลฯ (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)