อัคริณ โฮเทล กรุ้ป เดินหน้าขยายพอร์ตครั้งใหญ่ ประกาศเปิดตัวโรงแรมใหม่ 3 แห่งทั้งในไทยและลาว



   อัญชลิกา กิจคณากร ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ อัคริณโฮเทลกรุ้ป เปิดเผยว่า ภายในปีนี้ได้ขยายธุรกิจโรงแรมภายในเครือถึง 3 แห่ง ทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้แก่ “อคีรา บีชคลับ ภูเก็ต” (akyra Beach Club Phuket) บีชคลับน้องใหม่บนเกาะภูเก็ตแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก “อคีรา ทองหล่อ กรุงเทพฯ” (akyra Thonglor Bangkok) บูติกโฮเทลระดับลักซัวรี่ใจกลางเมืองกรุงแห่งแรกในเครืออัคริณฯ และ “เดอะ เพรสสิเดนท์ บาย อัคริณ” (The President by Akaryn) เมืองเวียนเทียน ประเทศลาว ซึ่งนับเป็นการขยายตัวธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศก้าวแรกของเครืออัคริณฯ โดยทั้งหมดจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในเดือนธันวาคม 2559 นี้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูการท่องเที่ยว และพร้อมมอบประสบการณ์แห่งการพักผ่อนที่แตกต่างและเหนือระดับ

"ในปีนี้อัคริณโฮเทลกรุ้ปจะขยายธุรกิจโรงแรม ถึง 3 แห่ง เพื่อรองรับเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ขยายตัวมากขึ้น และตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสการพักผ่อนใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิมในหลากหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นในจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก บนทำเลที่เป็นชายหาดที่สวยที่สุด และในจังหวัดกรุงเทพฯ บนถนนทองหล่อที่เป็นย่านที่มีสีสัน ทันสมัย ซึ่งกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติและผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยในระยะยาว นอกจากนั้น เรายังขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศเป็นครั้งแรกอีกด้วย เพื่อตอกย้ำศักยภาพการบริหารงานด้านการบริการระดับลักซัวรี่ให้เป็นที่รู้จักในระดับภูมิภาค ได้แก่ “เดอะ เพรสซิเดนท์ บาย อัคริณ” ตั้งอยู่ในนครเวียงจันทร์ ประเทศลาว บนทำเลยอดนิยมอย่างถนนเศรษฐาธิราช และตั้งอยู่ใกล้กับอาคารรัฐสภาและหอพระแก้ว ซึ่งมั่นใจว่า จะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของนครเวียงจันทน์ ที่นักเดินทางจากทั่วโลกจะได้สัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษที่ผสมผสานระหว่างวันวานและอนาคตแห่ง ยุคทองของลาวได้อย่างลงตัว” อัญชลิกากล่าว

สำหรับ อคีรา บีชคลับ ภูเก็ต นับเป็นรีสอร์ทและบีชคลับระดับ 5 ดาวเต็มรูปแบบแห่งแรกในเครืออัคริณฯ ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 เป็นต้นไป ตั้งอยู่บนหาดนาใต้ จังหวัดพังงา ห่างจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตเพียง 20 นาที ตั้งอยู่ระหว่างย่านที่พักสุดหรูของบรรดามหาเศรษฐีและหมู่บ้านชาวประมงของคนท้องถิ่น นับเป็นโลเคชั่นที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของชายฝั่งทะเลอันดามัน เนื่องจากอยู่บนแนวชายฝั่งที่เปิดรับวิวพระอาทิตย์ตก สอดรับกับทัศนียภาพของผืนน้ำทะเลสีครามของทะเลอันดามัน ประกอบด้วยห้องพักแบบวิลล่าสุดหรูจำนวน 59 หลัง  บีชสปา ห้องออกกำลังกาย ร้านอาหารริมทะเล นอกจากนั้น ยังมีบริการจัดอีเวนท์สุดพิเศษทั้งกลางวันและกลางคืน, พิธีแต่งงานสุดโรแมนติก, ปาร์ตี้ต่างๆ รวมไปถึงซันเดย์ บรันช์ อีกด้วย

อคีรา ทองหล่อ (akyra Thonglor Bangkok) เตรียมเปิดประตูต้อนรับนักเดินทางจากทั่วโลกในเดือนธันวาคม 2559 เช่นกัน ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งแรกในกรุงเทพฯ ภายใต้แบรนด์อคีรา โดยจะเริ่มดำเนินการแปลงโฉมโรงแรมเดิมอย่างเต็มรูปแบบในช่วงเดือนนี้เพื่อให้กลายเป็นที่พักหรู สไตล์โดดเด่นใจกลางย่านธุรกิจการค้าและไลฟ์สไตล์ยอดนิยมของสุขุมวิทอย่างทองหล่อ  ประกอบด้วยห้องพักและห้องสวีทที่กว้างขวางให้ความรู้สึกของ “การพักอาศัยอยู่ในใจกลางเมือง” อย่างแท้จริงจำนวน 120 ห้อง พร้อมด้วยบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเฟิร์สคลาส อาทิ บาร์ริมสระว่ายน้ำที่มาพร้อมกับทัศนียภาพที่สวยงามของมหานครอย่างกรุงเทพฯ, เอ็กซ์เซคคิวทีฟ เลานจ์, ห้องสำหรับจัดประชุม, ร้านอาหาร และฟิตเนสครบวงจรที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชม.

 

เดอะ เพรสซิเดนท์ บาย อัคริณ โรงแรมแห่งแรกของเครืออัคริณ โฮเทลกรุ๊ปในต่างประเทศซึ่งตั้งอยู่บนโค้งลำน้ำโขงในนครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น เหนือกาลเวลา โรงแรมหรูแห่งนี้จะพาแขกผู้เข้าพักไปสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของเมืองที่มีความงดงามแต่มักถูกมองข้ามอย่างเวียงจันทน์ ซึ่งเดิมรู้จักกันในชื่อ “กำแพงนครเวียงจันทน์” เมืองหลวงของลาวแห่งนี้เป็นเมืองที่เงียบสงบ บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นขนมปังฝั่งเศสอบ เคล้ากลิ่นหอมของกาแฟสด และกลิ่นของเทียนหอมอโรม่า สะท้อนอดีตสุดคลาสสิกกับแมนชั่นสไตล์โคโลเนียลตามแนวถนนที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้อันเขียวชะอุ่มสองข้างทาง ให้บริการห้องพักและห้องสวีททั้ง 32 พร้อมกับบริการบัตเลอร์ส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ เดอะ เพรสซิเดนท์ บาย อัคริณ ยังได้รับเลือกจากองค์การสหประชาชาติให้เป็นพันธมิตรหลักแห่งภูมิภาคเอเชีย และเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางในการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืนและพัฒนาเมืองที่บริษัทเข้ามาดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อัคริณ โฮเทลกรุ๊ปมุ่งมั่นที่จะคืนกำไรให้กับชุมชนในการที่จะเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่แบบยั่งยืนและการท่องเที่ยวของท้องถิ่น