หนังดังติดดาว ขอบคุณคอหนังทุกคนที่ติดตามการรีวิวหนัง



หนังดังติดดาว  ขอบคุณคอหนังทุกคนที่ติดตามการรีวิวหนัง นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย เนื่องจากเว็บจะปรับเปลี่ยนการนำเสนอข่าว ขอบคุณ บก.ที่ใจดี ให้โอกาสได้นำเสนอคอลัมน์ และอีกหลายๆ คอลัมน์ที่ดี ได้กระแสตอบรับดี  วันหน้าฟ้าใหม่ ฟ้าใส คงได้มีโอกาสร่วมงานกันอีก หรือได้กลับมาเจอะเจอคอหนังอีกครั้ง การปิดท้ายคอลัมน์นี้..ไปดูว่าหนังเรื่องไหนติดดาวเยอะสุด..

โซนี่ พิคเจอร์ส  ภูมิใจเสนอภาพยนตร์เรื่องARRIVAL ผู้มาเยือน นำแสดงโดย เอมี่ อดัมส์, เจเรมี เรนเนอร์   เป็นเรื่องราวการสืบสวนสอบสวนของกองทัพ ร่วมกับทีมนักภาษาศาสตร์ นำโดย  ดร. หลุยส์ แบงค์ส (เอมี่ อดัมส์) และ เอียน ดอนเนลลี่ ( เจเรมี เรนเนอร์) ในการตีความการมาเยือนของยานลึกลับจากอวกาศที่ปรากฏอยู่เหนือน่านฟ้า 12 เมืองต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งพวกเขามั่นใจว่าเป็นการแฝงด้วยนัยะบางอย่างที่สำคัญ และอาจส่งถึงความเป็นไปของมวลมนุษยชาติ ยิ่งการค้นหาคำตอบใช้เวลานานเพียงไร ความหวาดระแวงของรัฐบาล รวมถึงภาคประชาชนก็ค่อยๆ ปะทุเป็นความรุนแรง จนเกิดสถานการณ์ความวุ่นวายยิ่งขึ้น ดังนั้นพวกเขาต้องพิชิตให้ได้ ไม่ใช่แค่เพียงเหล่าผู้มาเยือน แต่ยังต้องทำงานแข่งกับเวลาด้วย 
               ซึ่งหนังทำออกมาในแนวปรัชญามากไปหน่อย ดูน่าเบื่อพอสมควร ไม่ค่อยมีอะไรตื่นเต้น วิชาภาษาศาสตร์ ในหนังดูจะเป็นแก่นหลักของเรื่องมากกว่าหน้าหนังมากนัก ฉากแสงสี ถือว่าทำออกมาได้ธรรมดา ที่ดูทำได้ดี คือ โปสเตอร์หนัง ที่ทำมาแนวเดียวกับ ID4 ที่มี ยานประหลาดๆ อยู่เหนือน่านฟ้า เมืองต่างๆ นักแสดงนำเล่นได้ปานกลาง ส่วนบทภาพยนตร์ทำได้แค่พอใช้ เนื้อเรื่องไม่น่าสนใจมากนัก  ติดให้ *

                พักหลังนี้พระเอก เบน แอฟเฟล็ค มักกุมบังเหียนเล่นเอง กำกับเอง ล่าสุดภาพยนตร์เรื่องLive By Night”  ซึ่งเป็นนิยายที่เขียนโดย  Dennis Lehane  โดยผลงานของเขาจะออกไปในแนว Noir เสียเป็นส่วนใหญ่ พอเอามาทำเป็นหนัง ก็เขียนบท นำแสดง และกำกับโดย เบน  ร่วมด้วย  เซียนน่า มิลเลอร์ , โรเบิร์ต เกลนิสเตอร์, ซีเลีย เกลนิสเตอร์ ฯลฯ    เป็นเรื่องราวของหนุ่มเชื้อสายไอริชนาม  โจ คัฟลิน ที่ดันมีพ่อเป็นนายตำรวจใหญ่ แต่ใจไม่ใฝ่ดีตามพ่อ กลับเป็นนักเลงและเป็นโจรอยู่ในแก๊งใหญ่ในยุคต้องห้ามในอเมริกาช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ซะงั้น

                ต้องชื่นชม Production อุปกรณ์ประกอบฉาก โลเคชั่น เสื้อผ้าหน้าผม ปืนผาหน้าไม้ ล้วนแล้วทำการบ้านมาอย่างดี ทุกอย่างถูกต้องตามยุคสมัยหมด อันดับถัดไปคือ Cinematography  หนังถ่ายภาพสวยมาก แสง เงา สวยงาม ส่วนซาวน์ก็ต้องปรบมือให้ด้วย พอเป็นฉากยิงกัน เสียงดังกึกก้องไปทั้งโรงเลย แน่นอนว่าเมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียคือ Adapted Screenplay ที่ดูขาดๆ เกินๆ อาจจะด้วยความที่ตัวละครเยอะมาก ทำให้การเฉลี่ยบทนั้นเกิดปัญหาได้  การเล่าเรื่องที่ดูแล้วมันไม่สุด อึดอัดกับหลายฉาก หลายประเด็นที่น่าจะขยี้ให้มากกว่านี้แต่ก็เลือกที่จะปล่อยให้มันค้างๆ คาๆ อยู่อย่างนั้นแหล่ะ  น่าเสียดายที่ เบน เคยไปไกลถึงเวที Oscars แต่การกลับมาคราวนี้กลายเป็นผิดฟอร์มไปอย่างมากเลยจริงๆ ความกลมกล่อมของเรื่องราว ความละเมียดละไมในการเล่าเรื่องที่เคยทำได้ดีใน The Town , Gone Baby Gone และ Argo มันหาไม่ได้เลยใน Live By Night  ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าผิดฟอร์มไปขนาดนี้ได้ยังไง  ติดให้ ** ครึ่ง

                มงคลเมเจอร์ ภูมิใจเสนอภาพยนตร์ที่ชนะใจนักวิจารณ์ทั่วโลก ที่ว่าด้วยเหตุการณ์ช่วงก่อน ระหว่าง และหลังเหตุการณ์ลอบสังหาร JFK ใน Jackie” รับบทโดย นาตาลี พอร์ตแมน ทุ่มสุดตัวกับบทบาทสตรีหมายเลข 1  ซึ่งร่วมด้วย  แคสปาร์ ฟิลลิปสัน รับบทเป็น จอห์น เอฟ เคนเนดี้ กำกับโดย  ปาโบล ลาร์เรน

"Don't let it be forgotten , that once there was a spot , for one brief shining moment that was known as Camelot"

-- Alan Jay Lerner

               นี่คือเนื้อร้องของบทเพลงจากละครเวที Camelot ที่พูดถึง Camelot อันเป็นตำนานเล่าขานถึงอาณาจักรที่เคยยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองอยู่ในอดีตกาล ที่ในหนัง Jackie นำมาใช้ในหนัง เพื่อเปรียบเทียบยุคสมัยของ JFK ที่รุ่งเรืองไปด้วยหลายสิ่งหลายอย่างที่กำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี   ไม่ว่าจะเป็นสิทธิพลเมืองของคนผิวสีที่กำลังดีขึ้น หรือการทำท่าจะถอนตัวออกจากความวุ่นวายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของอเมริกา เป็นต้น แต่สิ่งเหล่านั้นก็หายวับไปกับตาในช่วงสายของวันที่ 22 พฤศจิกายน 1963 เมื่อกระสุนที่ดังกึกก้องไปทั่วโลกปลิดชีพ John Fitzgerald Kennedy (จอห์น เอฟ เคนเนดี้) ประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐอเมริกา  ซึ่งหนัง Jackie เป็นเรื่องราวที่ว่าด้วยเหตุการณ์ช่วงก่อน ระหว่าง และหลังเหตุการณ์ลอบสังหาร JFK ที่เกิดขึ้นกับ Jacqueline Kennedy (แจ็คเกอลีน เคนเนดี้) อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ในยุคนั้นนั่นเอง

               หนังให้ภาพ Jackie ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้เห็นสามีของตัวเองถูกยิงหัวต่อหน้าต่อตา เธอเกิดอาการช็อค สติหลุด แต่ก็ต้องพยายามควบคุมอารมณ์ และจิตใจให้เข้มแข็งพอที่จะจัดการกับอะไรต่อมิอะไรหลังจากสามีจากไป โดยหนังใช้วิธีการเล่าเรื่องตัดสลับไปมาระหว่างการมาสัมภาษณ์เธอ โดยนักข่าวคนหนึ่ง (ที่ไม่มีการเอ่ยชื่อในหนัง แต่ถ้าคนรู้ประวัติศาสตร์จะรู้ว่าคือ Theodore White จากนิตยสาร Life นั่นเอง) กับเหตุการณ์ช่วงก่อนและหลังการลอบสังหาร JFK  แถมยังมีความเนียนในการตัดต่อภาพจริงกับภาพที่ถ่ายทำขึ้นทีหลังได้อย่างที่ถ้าไม่สังเกตให้ดีนี่แทบจะแยกไม่ออกเลยว่าอันไหนของเก่าอันไหนของใหม่ และเหมือนเราถูกสะกดให้ตรึงอยู่กับจอหนังดูการแสดงของ นาตาลี ผู้รับบท แจ็คเกอลีน เคนเนดี้  เธอเลียนแบบท่าทางและน้ำเสียงได้เหมือนมากๆ ถ่ายทอดออกมายอดเยี่ยม ขอแนะนำว่าควรทำการบ้านก่อนเข้าไปดู โดยหาข้อมูลเกี่ยวกับ JFK เพราะสร้างจากเรื่องจริงที่มีคนจริงๆ ในเรื่อง หนังมีพลังสะกดคนดูสูงมาก และกล่าวถึงความสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักได้อย่างน่าประทับใจ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าหาก JFK ไม่ถูกลอบสังหาร โลกของเราจะเป็นอย่างไรนะ?   ติดให้ **** ครึ่ง  

                มงคลภาพยนตร์  ส่งภาพยนตร์ญี่ปุ่นสร้างจากนิยายชื่อดังที่ฮิตโดนใจหนุ่มสาวทั่วญี่ปุ่น และมียอด จำหน่ายสูงถึง 1 ล้านเล่มใน 2 ปี เรื่องTomorrow I Will Date With Yesterday’s You”  นำโดย   นานะโคมัตสึ, โซตะ ฟุคุชิ  เขียนบทโดย โยชิดะ โทโมโกะ งานกำกับของ ทาคาฮิโระ มิกิ ( Have a Song on Your Lips)  ซึ่งเป็นเรื่องราวของ ทาคาโตชิ นักศึกษามหาวิทยาลัย ที่ตกหลุมรักสาวสวยลึกลับ บนรถไฟ เขาตาม

จีบเธอจนรู้ว่าเธอชื่อ เอมิ  พวกเขาตกลงจะเดตกัน 30 วัน และในวันสุดท้าย ทาคาโตชิ สารภาพรักกับเธอ และเขาถึงรู้ว่าความรักของพวกเขาไม่มีวันเป็นไปได้ เพราะโลกของพวกเขาคือ โลกคู่ขนานที่ทุกๆ 5 ปี เวลาจะมาบรรจบ ทาคาโตชิ  และ เอมิ ตัดสินใจจะกลับมาเจอกันอีกทุกๆ  5 ปี 

                หนังมีความเป็นแฟนตาซีผสมความโรมานซ์ที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี หนังเริ่มต้นเหมือนหนังรักระหว่างหนุ่มสาวที่มีความกุ๊กกิ๊กน่ารักไปตามประสา อะไรๆ ก็ดูเป็นสีชมพูไปหมดทั้งโลกเมื่อมีความรัก แต่เมื่อความลับออกมาส่วนหนึ่ง อารมณ์ของหนังเปลี่ยนไปทันที หนังพูดถึงความเจ็บปวดที่ทั้ง ทาคาโตชิ และ เอมิ  ต้องทนทุกข์ทรมาน  เพราะเงื่อนไขของความลับนั้น และหนังมีความฉลาดในการเล่าเรื่องด้วยเงื่อนไขของกาลเวลา แต่ทั้งคู่ก็มีศรัทธาในความรักพอที่จะไม่ยอมแพ้  ประเด็นพูดถึงความจริงของความรักผ่านความเป็นแฟนตาซีได้อย่างเฉียบคม และความรักคือการรอคอย สิ่งเหล่านี้มันซ่อนอยู่ในเรื่องราวของหนัง ติดเต็ม *****

          มงคภาพยนตร์ ต้อนรับตรุษจีนด้วยภาพยนตร์ของเจ้าพ่อฟัด เรื่องยิ่งใหญ่Kung Fu Yoga (กังฟู โยคะ) โยคะสู้ฟัด”  นำทีมโดย เฉินหลง หรือ  แจ็คกี้ ชาน ร่วมด้วยทีมฟัดอาทิ  ทิชา พาตานี (M.S. Dhoni: The Untold Story, Loafers), โซนู ซูด (Happy New Year, Dookudu),  หลี่ จื้อถิง (L.O.R.D, Bruce Lee My Brother), อามิรา ดัสตู, อาริฟ ราห์มาน  กำกับโดยผู้กำกับคู่บุญ สแตนลี่ ถง (ใหญ่ฟัดโลก, วิ่งสู้ฟัด 3-4, ดาบทะลุฟ้า ฟัดทะลุเวลา)  เรื่องราวของ แจ็ค ศาสตราจารย์โบราณคดีชาวจีน ประจำสุสานนักรบดินเผาเมืองซีอาน ต้องมาร่วมตามหาสมบัติ Magadha กับ แอชมิตา (ทิชา พาตานี) ศาสตราจารย์สาวสุดสวยชาวอินเดีย และ ไคร่า (อามิรา ดัสตู) ผู้ช่วยของเธอ  จากนั้นได้ โจนส์  ลี (อาริฟ ราห์มาน) ที่เป็นลูกเพื่อนเก่าของแจ็ค มาร่วมทีมจนรู้ว่าสมบัติถูกซ่อนอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง แต่ถูกซุ่มโจมตีโดย แรนดัล (โซนู ซูด) ลูกหลานของผู้นำทัพกบฏ ระหว่างชุลมุนโจนส์คว้าเพรชหนีไป จุดหมายต่อไปของพวกเขาคือดูไบ เพื่อตามทวงเพรช พร้อมการเปิดเผยอดีตอันลึกลับของแต่ละคน และแจ็คใช้เพรชเป็นกุญแจปลดล็อคสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้

หนังเฉินหลงเป็นอะไรที่รอคอย แม้เจ้าพ่อฟัดจะวัยมากขึ้น หากแต่ก็พยายามใส่ความมันส์ สะใจไม่ให้แฟนๆ ต้องผิดหวัง เนื้อหาเป็นอะไรแปลกใหม่ โดยเฉพาะกราฟฟิคเนียนขั้นเทพ เนื้อเรื่องก็เป็นสไตล์เฉินหลง บู๊ ตลก เด็กดูได้ไม่มีความรุนแรง มีแต่ความฮา สอดแทรกข้อคิดท้ายเรื่อง การกลับมาครั้งนี้ขนนักแสดงบอลลีวูด ซึ่งนางเอกสวยมาก ตัวร้ายก็เท่ห์เหลือเกิน มั่นใจว่านักแสดงอินเดีย 3 คนแจ้งเกิดได้แน่ เพราะใครที่ร่วมงานกับเฉินหลงอนาคตรุ่งทุกราย ถือเป็นหนังที่ดูสนุก ไร้พิษภัย ด้วยวัยที่บ่งบอกเฉินหลงจึงหาความแปลกมานำเสนอด้วยการโชว์บอลลีวูดแดนซ์ได้น่ารัก ซึ่งหนังได้ทีมพันธมิตรพากย์เพิ่มอรรถรสจน หัวเราะลั่นโรง  ดูจบอมยิ้มกลับบ้าน  ติดให้ ****

                เฉลยคำถามหนัง“Rogue One: A Star Wars Story” :  Rogue One

                เฉลยคำถามหนัง“La La Land” :  เปียโน

             เฉลยคำถามหนัง“Swordmaster 3D” :  ฉีเคอะ, เอ๋อตงเซิน, ชุนเทียนหนัม 

                เฉลยคำถามหนัง“ใหญ่-ปล้น-ฟัด (Railroad Tigers)”:  หม่าหยวน, ต้าไห่ และ ฟ่าฉวน

                คำถามหนัง“Kung Fu Yoga” ผู้กำกับคือใคร?

ทราบคำตอบเขียนชื่อ - ที่อยู่และคำตอบ ลงไปรษณียบัตรส่งมาที่  หนังดังติดดาว  เลขที่  369 Chez Nona Court (202) ซ.ลาดพร้าว 23 แขวง จันทรเกษม เขต จตุจักร กรุงเทพฯ 10900  ผู้ตอบถูก 5 ท่าน ได้รับของรางวัลจาก  มงคภาพยนตร์  (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)

         มิลลา โจโววิช  ปิดฉากตำนานมหากาพย์สงคราม แอ็คชั่นResident Evil: The Final Chapter  อวสานผีชีวะ” เป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ ดัดแปลงจากแฟรนไชส์เกมยอดนิยมจากค่ายแคปคอม ด้วยรายได้รวมกันกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญ 1,000 ล้านเหรียญทั่วโลก จนถึงปัจจุบันและกลายเป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่สร้างจากเกมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาล  ร่วมปิดตำนานโดย อาลี ลาร์เตอร์ ในบท แคลร์ เรดฟิลด์, ชอว์น โรเบิร์ตส์ ในบท อัลเบิร์ต เวสเกอร์ และ เอียน เกลน ในบท ดร.อเล็กซานเดอร์ ไอแซ็คส์ และนักแสดงหน้าใหม่ของแฟรนไชส์นี้รวมถึง รูบี้ โรส (ซีรีส์ Orange is the new Black), โอเวน แม็คเคน (ซีรีส์ The Night Shift), นางแบบและพิธีกรคนดังชาวญี่ปุ่น โรลา ในบท โคบอลท์, นักแสดงชาวเกาหลีใต้  ลี จุนกิ  (My Girl) ในบท ผู้บัญชาการ, เฟรเซอร์ เจมส์ (ซีรีส์ Law & Order), วิลเลียม เลวี (The Veil) พอล ดับบลิว.เอส. แอนเดอร์สัน มือเขียนบท ผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง ผู้ทำงานในแฟรนไชส์นี้มาโดยตลอด (The Three Musketeers, แฟรนไชส์ Resident Evil) กลับมานั่งแท่นผู้กำกับและได้ร่วมงานอีกครั้ง  ภาคนี้เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ The Umbrella Corporation กำลังรวบรวมกำลังพล เพื่อกำจัดมนุษย์ที่เหลือรอดให้สิ้นซาก ทำให้ อลิซ ต้องกลับมาสู่เมือง Raccoon เพื่อต่อสู้กับสงครามครั้งสุดท้ายนี้ ในการแย่งชิง แอนตี้ไวรัส T ที่อยู่ในฐานใต้ดินของ The Umbrella Corporationมาแพร่กระจายในอากาศ 
               หนังทำออกมาได้บู๊ล้างผลาญตลอดเวลาเช่นเคย ภาคนี้ความอลังการอาจจะน้อยกว่าภาคก่อนๆ แต่สามารถสรุปเรื่องราวที่มาของไวรัสการติดเชื้อ และทางแก้ไข เป้าหมายในการจบได้ดี บทภาพยนตร์ เป็นภาคที่เรียบเรียงได้ดูง่ายที่สุด ฉากในการสร้าง การบู๊ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ส่วนนักแสดงนำทุกคนเล่นได้ดีเยี่ยม

สรุปเนื้อเรื่องที่เรียบเรียงได้ดี มีเป้าหมายชัดเจน ดูง่ายกว่าทุกภาค   ติดให้ ****