นายชาญชัย พันธ์โสภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เดอะ แพลตินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PLAT ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาศูนย์การค้าส่งและปลีก รวมทั้งบริหารพื้นที่ค้าส่งปลีกให้เช่า เพื่อการพาณิชย์ กล่าวว่า การดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในปี 2559 มีกำไรสุทธิ 704 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74 ล้านบาท หรือ 12 % เมื่อเทียบกับปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่บริษัทมีกำไร นิวไฮ โดยมีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,863 บาท เพิ่มจากปี 2558 จำนวน 95 ล้าน โตขึ้น 5% ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าเช่าค่าบริการและโรงแรม ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก เนื่องจากบริษัทมีการปรับขึ้นราคาค่าเช่าพื้นที่ รวมทั้งค่าบริการ ค่าบริการ รวมถึงการปรับโซนพื้นที่ขายอาหารบางส่วนในโครงการ เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ มาบริการเอง เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2559 สำหรับโครงการ”ตลาดนีออน” ตลาดนัดกลางคืน…ใจกลางกรุง บนถนนเพชรบุรี 23-29 ส่งผลให้รายได้จากการให้เช่าและบริการเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้รายได้หลักของบริษัทมาจาก 3 ส่วน ใหญ่ คือ รายได้ค่าเช่าและบริการอยู่ที่ 1,107 ล้านบาท รายได้จากการประกอบกิจการโรงแรมอยู่ที่ 365 ล้านบาท รายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่ม 246 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆอยู่ที่ 145 ล้านบาท ผลประกอบการทั้งรายได้ กำไร ปี 2559 ถือว่าเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ สามารถสร้างกำไรจากการดำเนินงานสูงถึง 704 ล้านบาท เป็นนิวไฮใหม่ของ PLAT ซึ่งถือว่ารายได้หลักมาจากการให้เช่าพื้นที่ โดยที่ผ่านมามีการปรับราคาค่าเช่าระหว่างปีพร้อมทั้งปรับเปลี่ยนพื้นที่บางส่วนของร้านอาหารที่บริษัทฯดำเนินงานเอง

สำหรับด้านโรงแรมรายได้เพิ่มจากการปรับราคาห้องพัก ไตรมาส 3/59 บริษัทฯมีลูกค้าองค์กรธุรกิจเข้าพักเพิ่มขึ้นซึ่งมีอัคราค่าห้องพักอยู่ในระดับราคาที่สูง ขณะที่รายได้อื่นของบริษัทไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนการจ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้น ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2559 อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.18 บาทต่อหุ้น

นายชาญชัย กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินธุรกิจของPLAT ในปี 2560 ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่กว่า 2,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 59 ที่มีรายได้ 1,863 ล้านบาท  โดยเฉพาะธุรกิจพื้นที่เช่า ส่วนธุรกิจโรงแรม โนโวเทล กรุงเทพ แพลตินัม ประตูน้ำ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการอย่างคึกคัก ทำให้ทั้งปี 2559 มีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 87%

สำหรับโครงการ เดอะมาร์เก็ต แบงคอก ศูนย์การค้าปลีกขนาดใหญ่ บนถนนราชดำริ ขนาดพื้นที่รวม 170,000 ตร.ม.มูลค่าการลงทุน 5,800 ล้านบาท ได้ดำเนินการลงเสาเข็มโดยงานชั้นใต้ดินดำเนินการเสร็จเรียบร้อย และจะเริ่มเห็นโครงการชั้นบนสุดภายในปีนี้ โดยกำหนดแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในไตรมาส 4/61 ส่วนความคืบหน้าในการลงทุนที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ปลายปี 2560 จะเริ่มก่อสร้างโรงแรม 2 แห่ง คือ โรงแรม Holiday Inn Express เป็นโรงแรม 3 ดาว และโรงแรม Holiday Inn Resort 4 ดาว

นายชาญชัย กล่าวอีกว่า โครงการ The Platinum Empowering SMEs เมื่อเดือนพฤษภาคม 2559  ดำเนินการเปิดตัว 20 ร้านโครงการนำร่องร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการไทยรายย่อย SME ให้สามารถสร้างแบรนด์แข่งขัน เพิ่มยอดขายและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 2560  ปัจจุบันมีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการถแล้ว 100 ร้าน ค้า โดยมีเป้าหมายคือ The Best Wholesale Fashion HUB of ASEAN สำหรับวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการไทยรายย่อย SME ให้สามารถสร้างแบรนด์แข่งชัน เพิ่มยอดขายและเติบโตอย่างยั่งยืน ในตลาดเสื้อผ้าแฟชั่น ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ