เกียรติศักดิ์ กีรติยากรสกุล ปฏิวัติวงการรถแท็กซี่ไทย ทุ่มทุนก่อตั้งโครงการ “Taxi V.I.P”



             นายเกียรติศักดิ์ กีรติยากรสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้ริเริ่มก่อตั้งโครงการ “Taxi V.I.P” เปิดเผยว่า ปัญหารถแท็กซี่ไทยในปัจจุบันถือเป็นปัญหาระดับชาติ ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ อาทิ ปัญหาอาชญากรรม การให้บริการ สุขอนามัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร บริษัทฯ เล็งเห็นปัญหาดังกล่าวจึงเกิดโครงการ " Taxi V.I.P " เพื่อมาช่วยปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้กับแท็กซี่ไทย อีกทั้งยังเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพที่น่าภาคภูมิใจอย่างถูกกฎหมาย พร้อมกับรักษาอาชีพของคนไทย ทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ขับแท็กซี่หน้าใหม่เข้าสู่ระบบผ่านการอบรมและพัฒนาสร้างจิตสำนึกการให้บริการที่ดี มีคุณธรรม เพื่อปรับยุคสมัยสู่ไทยแลนด์ 4.0 ต่อไป

               ที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญในด้านคุณภาพรถแท็กซี่จึงได้ผลักดันโครงการ " Taxi V.I.P " เพื่อนำรถใหม่เข้าสู่ระบบให้มากที่สุด สำหรับในปีนี้เราโฟกัสมาในเรื่องคุณภาพการให้บริการ และการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้ผู้ที่รักงานบริการได้เข้าถึงอาชีพนี้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย. จึงเป็นที่มาของการเปิดตัวโครงการ "Taxi V.I.P " เพื่อสร้างความภาคภูมิใจในอาชีพขับแท็กซี่ให้เป็นอาชีพที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีและมีใจรักในการให้บริการ

               สำหรับโครงการ “Taxi V.I.P” เรามุ่งเน้นถึงระบบความปลอดภัยเช่น กล้องซีซีทีวี ระบบจีพีเอส คุณภาพของตัวรถที่กล้ารับประกันนานถึง3ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร เพื่อความอุ่นใจทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารโดยผู้ขับขี่ทุกท่านจะต้องผ่านการรับรองมาตรฐานจากบริษัทฯ เเละของกรมการขนส่งทางบก

               นายเกียรติศักดิ์ กล่าวอีกว่า    ปัญหาหลักของวงการรถแท็กซี่ไทยมีอยู่ 2 เรื่องคือ ผู้ขับขี่ และ ตัวรถแท็กซี่ สำหรับปัญหาเรื่องผู้ขับขี่ คือการขาดวินัยและจรรยาบรรณในการให้บริการซึ่งปัจจุบันมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้เข้าแก้ไข โดยทางบริษัทkpn. ได้จัดอบรมผู้ขับขี่รถแท็กซี่ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษและกฎระเบียบต่างๆของทางราชการ รวมถึงสร้างจิตสำนึกที่ดีในการให้บริการกับผู้โดยสารและอีกปัญหาหนึ่งของแท็กซี่ คือเรื่องรถโดยประเทศไทยถูกจัดอันดับเป็นลำดับต้นๆ เฉพาะด้านความคุ้มค่าในเรื่องของราคาค่าโดยสารเท่านั้น เราจึงต้องการแก้ปัญหานี้ผ่านโครงการ “Taxi V.I.P” ด้วยการนำรถหรูป้ายแดงอาทิ Toyota Camry ,Toyota Fortuner ,Toyota Altis ฯลฯ เข้าสู่โครงการโดยให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพรถยนต์ ตั้งแต่กระบวนการพ่นสีตัวรถที่เลือกใช้สีแบบแห้งช้า เกรดเดียวกับที่พ่นรถยุโรป ระบบก๊าซ NGV / LPG ด้วยอุปกรณ์จากประเทศอิตาลีทั้งหมดโดยใช้ศูนย์ติดตั้งก๊าซที่ได้มาตรฐานจากหน่วยงานภาครัฐ ทั้งปตท. กรมธุรกิจพลังงาน และกรมการขนส่งทางบก รวมถึงปรับโฉมภายในด้วยการหุ้มเบาะหนังแท้พร้อมทั้งการกรุพื้นปกป้องฝุ่นภายในรถ มีระบบมิเตอร์ดิจิตอลแบบสัมผัสพร้อมใบเสร็จรับเงินภายในตัวและระบบชำระค่าแท็กซี่ผ่านบัตรเครดิตทุกธนาคาร รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆอาทิ การมีสายต่อเชื่อมUSBเพื่อชาร์ตเบตเตอร์รี่โทรศัพท์มือถือ บริการฟรีWifi และน้ำดื่ม ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับรถแท็กซี่ไทยและโครงการนี้ยังรองรับรถแท็กซี่เก่าที่กำลังจะหมดอายุในปีนี้กว่า 20,000 คันด้วย

                    โครงการ “Taxi V.I.P” ตอบสนองนโยบายของภาครัฐ ด้วยการเปิดช่องทางการสร้างงานสร้างอาชีพและรายได้เสริมให้แก่ผู้ที่สนใจหรือผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของรถแท็กซี่ส่วนบุคคลโดยทำรถแท็กซี่ให้เป็นรถอเนกประสงค์ไม่ว่าจะขับไปทำงานหรือรับส่งคนในครอบครัวก็ยังสามารถรับส่งผู้โดยสารหลังเลิกงานประจำได้ในราคาที่ดาวน์ต่ำดอกเบี้ยถูกหรือจะเลือกโปรเเกรมผ่อนโดยฟรีดอกเบี้ย0% นาน 6 เดือน ผ่อนค่างวดเฉลี่ยเพียงวันละ 500 กว่าบาท พร้อม ประกันภัย ชั้น 1 เเละประกันอุบัติเหตุให้ผู้ขับขี่ฟรีวงเงินคุ้มครองสูงถึง 1.2ล้านบาทรวมถึงยังเปิดช่องให้กลุ่มผู้ลงทุนที่ต้องการเปิดกิจการรถเเท็กซี่ให้เช่าเป็นของตนเองได้เข้ามาปรึกษาเพื่อขยายธุรกิจเกี่ยวกับกลุ่มรถเช่าในระยะยาวด้วย

      

“บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและยกระดับวงการอาชีพรถแท็กซี่ของเมืองไทยให้ได้มาตรฐาน โดยเราทำตรงนี้เพื่อเป็นการตอบแทนสังคมและต้องการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แท็กซี่ไทยที่มักมีปัญหาภาพลักษณ์ไม่ดีอยู่เป็นระยะเกี่ยวกับคนขับแท็กซี่ นอกจากนั้นยังเน้นย้ำด้านบริการด้วยมิตรภาพและจรรยาบรรณที่ดีและเรายังทำข้อตกลงว่าคุณจะต้องไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร พร้อมกันนี้เรายังเปิดอบรม ฝึกมารยาท ภาษา และหลักในการบริการลูกค้าแบบมาตรฐานสากลให้กับคนขับในโครงการแท็กซี่วีไอพีด้วย ดังนั้นจึงนับว่าเป็นการเปลี่ยนทัศนคติใหม่ของวงการแท็กซี่ไทยที่ใครเห็นก็อยากนั่งเพราะฉะนั้นรถแท็กซี่ที่มีความพร้อมที่จะให้การบริการที่ดี มีความสะดวกสบายและปลอดภัย ถือเป็นการเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศและเป็นการสร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสาร”เกียรติศักดิ์ กล่าว