LHBANK รับเงินค่าหุ้นเพิ่มทุน 1.6 หมื่นล้าน จาก CTBC BANK



นางศศิธร พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุล) กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHBANK  เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2560 ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 7,544,961,342 หุ้น     มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายต่อ CTBC Bank อันเป็นการเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด  (Private Placement) ในราคา 2.20 บาทต่อหุ้น เป็นเงินจำนวน 16,598,914,952.40 บาทนั้น  เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 บริษัทได้รับเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนดังกล่าวจาก CTBC Bank เรียบร้อยแล้ว ซึ่งภายหลังการเพิ่มทุนทำให้ CTBC BANK เข้ามาถือหุ้นของบริษัทสัดส่วนร้อยละ 35.617 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ซึ่งเป็นสัดส่วนเท่ากับการถือหุ้นรวมกันของ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH จำนวนร้อยละ 21.879 และ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH จำนวนร้อยละ 13.738

“หลังจากนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนดังกล่าวมาเพิ่มทุนในธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะทำให้ฐานเงินกองทุนของธนาคารเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว หรือเท่ากับประมาณ 40,000 ล้านบาท  และมีอัตราส่วนเงินกองทุนรวมอยู่ที่ร้อยละ 23.7 มีอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 หรือ Common Equity Tier 1 อยู่ที่ร้อยละ 20.3 ซึ่งการร่วมเป็นพันธมิตรกับ CTBC Bank เพื่อรองรับการเติบโต  การขยายธุรกิจต่างประเทศ และเป็นการยกระดับการให้บริการทางการเงินด้วยความเชี่ยวชาญทางด้านการบริหารการเงินส่วนบุคคล (Wealth Management) ด้านดิจิตอลแบงกิ้ง (Digital Banking) และด้านเทรดไฟแนนซ์ (Trade Finance) ของ CTBC Bank  ผ่านกลุ่มการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้แก่

บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)

บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และ

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด”

CTBC BANK เป็นบริษัทในเครือ CTBC Financial Holding Co., Ltd. กลุ่มการเงินขนาดใหญ่ของไต้หวัน และเป็นธนาคารเอกชนที่มีสินทรัพย์ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ของไต้หวัน โดยมีมูลค่าสินทรัพย์กว่า 117 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4 ล้านล้านบาท  มีเครือข่ายและตัวแทน 108 แห่ง ครอบคลุมกว่า   14 ประเทศ อาทิ จีน  สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ฮ่องกง และสิงคโปร์ เป็นต้น และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) อยู่ที่ระดับ A2 โดย Moody’s