ก.พาณิชย์สบช่อง จัดงาน“ ไทย เฮิร์บ อินโนบิส เนทเวิร์ค 2017”ดันสมุนไพรผงาดตลาดโลก



กระทรวงพาณิชย์ จัดงาน“ ไทย เฮิร์บ อินโนบิส เนทเวิร์ค 2017”  โชว์ศักยภาพผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ดัน บัวบก ขมิ้นชัน ไพล  กระชายดำ มุ่งเน้น อาหาร ยา และเครื่องสำอาง ขึ้นแท่นผลิตภัณฑ์ Thailand’s Signature สู่ตลาดโลก  

          นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันแนวโน้มตลาดและโอกาสในอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย  มีการคาดการณ์ว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์  จึงได้กิจกรรม“Thai  Herb  InnoBiz  Network  2017”  ภายในงาน “มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ”  ครั้งที่ 14  ขึ้น ณ. อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อชูศักยภาพผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยในตลาดโลก รวมทั้งจัดโปรแกรมสำรวจศักยภาพสมุนไพรไทยตามโรงงานผลิตสมุนไพรที่ได้มาตรฐานสากล  เพื่อเสริมสร้างศักยภาพ  โอกาสและเครือข่ายธุรกิจสมุนไพรไทย

             นายวินิจฉัย กล่าวอีก ประเทศไทยมีสรรพคุณและนำมาใช้ประโยชน์กว่า 1,800 ชนิด และมี 300 ชนิดที่เป็นวัตถุดิบสมุนไพรที่หมุนเวียนในท้องตลาด   โดยปัจจุบันไทยส่งออกสมุนไพรเป็นมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท สารสกัดจากสมุนไพรมูลค่ากว่า 270 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เช่น สบู่ แชมพู และผลิตภัณฑ์รักษาผิวที่ใช้สมุนไพรเป็นส่วนผสมมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท  ในขณะที่ตลาดโลก  ยอดตัวเลขในอุตสาหกรรมสมุนไพรในตลาดโลกมีมูลค่ารวมกันประมาณ 9.18 หมื่นล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ

           สำหรับประเทศที่มีมูลค่าตลาดสมุนไพรที่สูง ได้แก่ ประเทศเยอรมนี ประเทศญี่ปุ่น และประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่าตลาดสมุนไพรในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาก็มีอัตราการขยายตัวของการบริโภคผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพิ่มสูงขึ้น  สืบเนื่องจากได้เริ่มมีความตระหนักถึงความสำคัญของการใช้สมุนไพรและยาแผนโบราณเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

          ทั้งนี้ ตลาดสมุนไพรและยาแผนโบราณในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเป็นตลาดสมุนไพรที่มีอัตราการขยายตัวที่มากที่สุด โดยมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยเป็นประมาณร้อยละ 9.1 ต่อปี และสำหรับอัตราการขยายตัวของการบริโภคผลิตภัณฑ์สมุนไพรในแต่ละประเทศอยู่ที่ระว่างร้อยละ3-12 ซึ่งกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพสูงที่สุดในตลาดสมุนไพร ได้แก่  กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและกลุ่มผลิตภัณฑ์เวชสำอาง

         ด้านนางสุรีย์พร  สหวัฒน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า  ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์  กำลังเร่งขับเคลื่อนนโยบายตามแผนแม่บทแห่งชาติ ว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ฉบับที่ 1 พ.ศ.2560 – 2564 เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของวัตถุดิบสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรภายในประเทศและต่างประเทศ และยกระดับให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรชั้นนำของภูมิภาคอาเซียน  โดยมอบหมายสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ​เร่งพัฒนาสมุนไพรตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง จึงได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์สมุนไพรและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสมุนไพร โดยมีพืชสมุนไพรเป้าหมาย 4 ชนิด ได้แก่ บัวบก ไพล กระชายดำ และขมิ้นชัน โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ อาหาร ยา และเครื่องสำอาง

        การยกระดับพืชสมุนไพรทั้ง 4 ชนิด สู่ผลิตภัณฑ์ Thailand’s Signature สนค. ได้วางแนวทางการส่งเสริมและระดับสมุนไพรและผลิตภัณฑ์แปรรูปสมุนไพร โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ประกอบด้วย อาหาร ยา และเครื่องสำอาง โดยแบ่งออกเป็นสินค้าและผลิตภัณฑ์สมุนไพรแปรรูปประเภทต่างๆ ได้แก่ สินค้าประเภทผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สินค้าประเภทโภชนเภสัช  ผลิตภัณฑ์ประเภทเวชสำอาง ผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องสำอางเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของวัตถุดิบสมุนไพรทั้ง 4 ชนิดและอื่นๆเพื่อยกระดับให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรชั้นนำของภูมิภาคอาเซียน

          ปัจจุบันความต้องการใช้สมุนไพรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งความต้องการในการบริโภคเพื่อการสร้างเสริมและดูแลสุขภาพรวมถึงความต้องการในการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มของสมุนไพรต่างๆเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและสร้างความหลากหลายในการใช้ประโยชน์จากสมุนไพร ส่งผลให้สมุนไพรถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมหลายประเภทและสมุนไพรบางรายการก็เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคและผู้ผลิตเป็นอย่างสูงและสามารถสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศไทย