เปิดตัวโครงการ BFF Buddy Battle in Thailand กระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวไทย-จีน



ททท.ผนึกมีเดีย แอนด์ บล็อกเกอร์ คลับ จัดโครงการ BFF Buddy Battle in Thailand “บล็อกเกอร์ไทย-จีนคู่หูสุดฟิน ประชันหรรษาพาเที่ยวไทย” 13-19 กันยายนนี้ บูมท่องเที่ยวไทยผ่าน Influencer ไทย-จีน ร่วมกระตุ้นตลาดไทยเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยมากขึ้นตามรอยบล็อกเกอร์ ในเส้นทางกรุงเทพฯ-สระบุรี-นครราชสีมา-อยุธยา

นางสาวรัญจวน ทองรุต ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.มุ่งเน้นแผนการตลาดที่ต้องการขยายตลาดจากนักท่องเที่ยวจีนให้มากขึ้น ปี 2559 จำนวนนักท่องเที่ยวจีน 8.7 ล้านคน รายได้ 445,000 ล้านบาท และในปี 2560 คาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มขึ้นประมาณ 9 ล้านคน รายได้โตเป็น 500,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 9.1% จากปีก่อน

ส่วนหนึ่งคือต้องการขยายตลาดนักท่องเที่ยวจีนผ่านการตลาดออนไลน์ ซึ่งพฤติกรรมของผู้ใช้งานหรือประชากรออนไลน์ของประเทศจีนเติบโตอย่างมาก และให้ความสำคัญกับนักรีวิวหรือบล็อกเกอร์ หลายคนเป็น Influencer มีผู้ติดตามจำนวนมาก

นางสาวเพลินพิศ หมื่นพล ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่าสื่อทางด้าน Social Media เป็นช่องทางใหญ่ในการรับข้อมูลข่าวสารของผู้คนในยุคปัจจุบัน  ขณะที่บล็อกเกอร์หรือนักรีวิวผ่านงานเขียนในโลกออนไลน์ เป็นเทรนด์ของโลกยุคใหม่ ซึ่งช่วยทำให้ธุรกิจและองค์กรมีภาพลักษณ์และ Score ที่เกิดจากการรีวิว

ททท.จึงได้ร่วมมือกับ มีเดีย แอนด์ บล็อกเกอร์ คลับ ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นคลับที่เป็นการรวมตัวของบล็อกเกอร์ที่มีชื่อเสียง ในโครงการ BFF Buddy Battle in Thailand หรือบล็อกเกอร์ไทย-จีนคู่หูสุดฟิน ประชันหรรษาพาเที่ยวไทย

 โดยจะเชิญบล็อกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในจีนจำนวน 4 คนจากปักกิ่งและเฉิงตู เข้ามาร่วม Battle กับบล็อกเกอร์ไทยจำนวน 8 คน พาท่องเที่ยวไทยในเส้นทางกรุงเทพฯ-สระบุรี-นครราชสีมา-อยุธยา ระหว่างวันที่ 13-19 กันยายน 2560 โดยเน้นความสนุกสนาน เฮฮา พากันป่วนชวนกันเที่ยว ร่วมกันทำภารกิจเผยแพร่ความน่าเที่ยวของประเทศไทยผ่านบล็อกเกอร์ทั้ง 2 ประเทศ

ชื่อของโครงการ BFF Buddy Battle in Thailando นั้น คำว่า BFF ย่อจาก Best Friend Forever คือ เพื่อนที่ดีที่สุดตลอดกาล ,Buddy คือความเป็นเพื่อนและมิตรภาพของไทยและจีนที่มีมาช้านาน นำมาสู่ความเป็นเพื่อนและมิตรภาพของบล็อกเกอร์ทั้ง 2 ชาติ ,Battle คือการที่ทั้ง 2 จะประชันกันในแบบฉบับของตนเอง ในกิจกรรมจากท้องถิ่นไทยมาเผยแพร่สู่แฟนคลับ

ทั้งบล็อกเกอร์ไทยและจีนต่างก็มีเอกลักษณ์ของตัวเอง ที่จะสะท้อนออกมาแตกต่างกันไป โดยทุกทีมจะนำเสนอกิจกรรมของตัวเอง ผสมผสานความเป็นไทยและสินค้าไทยทั้งแบบโลคอล มีความเก๋ ลักชัวรี่ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

โครงการนี้ยังสอดคล้องกับ Thailand 4.0 สร้างการรับรู้ผ่านจุดขายหลัก “Thai Local Experience”  รวมทั้งช่วยต่อยอดแคมเปญสื่อสารในประเทศ “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง” อีกด้วย สอดคล้องกับจุดแข็งของประเทศไทยที่มีความหลากหลายทั้งด้านวัฒนธรรม ผู้คน อาหาร และแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะสามารถมอบประสบการณ์ให้แก่นักท่องเที่ยวได้ในหลายมิติ

นอกจากนี้เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะมีการนำเหล่าบล็อกเกอร์ไปร่วมทำกิจกรรมที่อสค. ซึ่งพระองค์ถือเป็นพระบิดาแห่งวงการโคนมของไทย ทรงเสด็จเปิดฟาร์มเมื่อ 16 ม.ค.2505 ร่วมกับพระเจ้าเฟรเดอริค กษัตริย์แห่งเดนมาร์ก ซึ่งทรงเห็นว่าที่มวกเหล็กเหมาะที่จะสร้างฟาร์มโคนมเนื่องจากหุบเขาสวย น้ำสะอาด อากาศดี และทรงเห็นว่าน้ำนมเป็นอาหารที่มีคุณค่า การจัดตั้งเป็นฟาร์มจะทำให้ประชาชนมีอาชีพเป็นหลักแหล่งไม่ทำไร่เลื่อนลอยอีกด้วย

นางสาวสาธิตา โสรัสสะ ประธานมีเดีย แอนด์ บล็อกเกอร์ คลับ ไทยแลนด์ กล่าวว่า ทางกลุ่มได้ส่งบล็อกเกอร์ของกลุ่มจำนวน 8 คนมีผู้ติดตามหรือ Followers รวมกันกว่า 1 ล้านคน เข้าร่วมกิจกรรมนี้ โดยภารกิจของบล็อกเกอร์ทั้ง 8 คนในโครงการ BFF Buddy Battle in Thailand จะเป็นไปตามแนวคิดคู่หูสุดฟิน ประชันหรรษาพาเที่ยวไทย แบ่งบล็อกเกอร์เป็น 4 ทีม ประชันระหว่างบล็อกเกอร์ไทยและจีน แต่ละทีมจะมีบล็อกเกอร์ไทยเป็นตัวหลัก 1 คน เพื่อประชันกับฝ่ายจีนที่มีทีมละคนเช่นกัน พร้อมกับมีผู้ช่วยฝ่ายไทยอีกทีมละคน รวมเป็นบล็อกเกอร์ในโครงการทั้งไทย-จีนทั้งหมด 12 คน

กิจกรรมที่จะ Battle กันคือ 1 ทีมพาหนะท้องถิ่น ,2 ทีมอาหารชวนชิม ,3 ทีมเที่ยวฟรุ้งฟริ้ง และ 4 ทีมซอฟท์แอดเวนเจอร์ ทั้งนี้โดยจะทำกิจกรรมเพื่อให้เข้ากับนิยามของท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง คือผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับความเก๋ไก๋ของสถานที่เที่ยว เช่นกิจกรรม Cookery Buddy Battle , Beauty Battle , Fabulous Buddy Battle เป็นต้น ด้วยเหล่าบล็อกเกอร์เจนเอ็กซ์และบล็อกเกอร์วัยเก๋าเอ้าท์ติ้ง

สถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปเยือนเช่น พีบี วัลเล่ย์ เขาใหญ่ ,Dairy Home ,องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก ,อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา,สวนจตุจักร,ภูเขาทอง,เยาวราช รวมถึงนั่งรถตุ๊กตุ๊กหน้ากบเที่ยวอยุธยา เป็นต้น

“แม้ว่าจำนวนผู้ติดตามหรือ Followers ของบล็อกเกอร์ไทยเราจะน้อยกว่าจีนมาก เนื่องจากจีนเป็นประเทศใหญ่ แต่เราก็ไม่หวั่น เพราะเราจะโปรโมทในทุกช่องทางทั้ง FB Fanpage ,บล็อก,การทำ FB Live และสื่ออื่นๆ ซึ่งเชื่อว่าแฟนคลับที่เหนียวแน่นของพวกเราจะช่วยเป็นกำลังใจให้กิจกรรมนี้ และติดตามผลงานของพวกเรา”

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย และบล็อกเกอร์อาหารชื่อดัง Restaurant Society กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมาชิกมีเดีย แอนด์ บล็อกเกอร์ คลับได้เข้าร่วมกิจกรรม Battle ทำอาหารในครั้งนี้ด้วย ซึ่งตนจะแสดงการทำอาหารไทยอย่างสุดฝีมือ เพื่อร่วมส่งเสริมอาหารไทยให้เป็นหนึ่งในอาหารโลก และเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างบล็อกเกอร์ไทยและจีน ซึ่งอาหารไทยและอาหารจีนนั้นต่างมีชื่อเสียงในระดับโลกอยู่แล้ว และกิจกรรมนี้ยังร่วมส่งเสริม Gastronomy Tourism หรือการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ซึ่งเป็นจุดขายที่โดดเด่นมาแรงของประเทศไทยในปี 2560 ด้วย

#BFFBuddyBattle #BFFBuddyBattleinThailand #AmazingThailand #TourismThailand #MediaBloggerclubThailand

ติดตามผลงานของเหล่าบล็อกเกอร์ไทย-จีนได้ที่

1 Facebook :  Travelista นักเดินทาง

2 Facebook :  Lovelytrip

3 Facebook :  กินแก้มตุ่ย ตะลุยเที่ยว

4 Facebook : Trip and Teach

5 Facebook : ชายคาตะวัน 

6 Facebook : ช่างภาพขาลุย

7 Facebook : Restaurant Society       

8 Facebook : เที่ยวซอกแซกไปกับ “ชายสามหยด”

9  www.tourismthailand.org/landing/en.html

10 Facebook : AmazingThailand

สื่อจีน  Weibo, Wechat, Mafengwo, Letour, Only Lady, Ctrip, Tuniu, Toutiao Sohu,Hello Chengdu magazine, Sina Weibo