อาจารย์วรรณวิไล กันเพ็ชร์ ศาสตร์พลังจิตทิพย์รักษาโรค



จากพรสวรรค์ และพรแสวง นักพลังจิตบำบัดโรค  จากก้าวแรกเริ่มรู้ถึงความเป็นผู้สื่อพลังจิตเหนือคนธรรมดา รักษาโรคจนหาย  เพียงแค่ “เชื่อมั่น ศรัทธา และใช้ความรักบวกกับพลังจิตของผู้รักษา” ของ “อาจารย์ วรรณวิไล กันเพ็ชร์” หรือ อาจารย์วิ ที่ได้รับการขนานนาม “ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังจิตทิพย์เพื่อการรักษาโรค”

     คุณวรรณวิไล กันเพ็ชร์   หรือที่ทุกคนรู้จัก อาจารย์ วิ จากพนักงานแบงค์  หันเหทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซื้อขายบ้าน ที่ดิน ในจังหวัดอุบลราชธานี  และด้วยความเพรียบพร้อม รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และชีวิตครอบครัว โดยได้แต่งงานกับจำลักษ์ กันเพ็ชร์ ข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทยที่ประจำอยู่จังหวัดลำปาง  ชีวิตราบเรียบมีความสุขตามแบบครอบครัวที่สมบูรณ์

    อาจารย์วรรณวิไล  เล่าว่า จากความสนใจในเส้นทางธรรม ศึกษาธรรมะ มาพักใหญ่  ชอบทำบุญ นั่งสมาธิ  จนวันหนึ่ง ประมาณปี 2553 ขณะนั้นนั่งสมาธิในห้องพระ แล้วเกิดสิ่งแปลก ๆ เรียกว่าอัศจรรย์ ก็ว่าได้ เทวดามาแสดงสิ่งเหลือเชื่อ ซึ่งไม่ได้แค่เห็นคนเดียว แต่แม่บ้านก็เห็น ดอกกุหลาบในห้องพระจาก 9 ดอก กลายเป็น 11 ดอก แสงไฟจากหลอดไฟต่าง ๆ แตกเป็นประกาย สวยงามกว่าปกติทั่วไป และยังมีกลิ่นหอมอบอวลทั่วห้องพระ

    อาจารย์วิ เล่าอีกว่า จริง ๆ แล้วมีความรู้สึกมาพักใหญ่ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์กุหลาบ 11 ดอกนี้ ซึ่งตนคิดว่ามีพลังบางอย่างในตัวเอง แต่ไม่ได้สนใจ คิดแค่การปฏิบัติธรรม รักษาศิล นั่งสมาธิ ด้วยใจบริสุทธิ์ เพียงเท่านั้น แต่เมื่อมาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา   หลังจากนั้นเพียง 3 เดือนเกิดปรากฎการณ์พลังงานบางอย่าง ลงมาที่กลางกระหม่อมหน้าผาก จมูก และทั่วทั้งตัว

    หลังจากเหตุการณ์นั้น อาจารย์วิ เริ่มศึกษาพลังงานดังกล่าวอย่างจริงจัง  จนได้พบ แคโรลิน และอเล็กซานเดอร์ ทอสการ์ ที่สอนเรื่อง Meditation Healing และยังได้ไปศึกษาศาสตร์ด้านพลังงานบำบัด ที่สถาบันวิทยาศาสตร์พลังจิต กับ ดร.ณ.ภัทรดิศ มณีโรจน์อัคร เรื่องศาสตร์แห่งพลังจิตเพื่อการบำบัดโรค จนเข้าใจอย่างถ่องแท้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง

            “พลังจิต พลังจักรวาล  ซึ่งเป็นพลังงานบริสุทธิ์ สามารถนำมาช่วยเหลือผู้คนได้ จึงมีแนวคิดที่จะนำองค์ความรู้นี้มาช่วยเหลือคนอื่น ๆ”

    อาจารย์วิ เล่าอีกว่า ตอนแรก ๆ ที่นั่งสมาธิ คนในกลุ่มเดียวกัน มีอาการป่วย เขาเล่าให้ฟังว่าลองใช้พลังจิตนี้มาใช้ สำหรับการรักษาคน ซึ่งคนแรกที่รักษาเป็นคุณลุง เป็นชาวสวนข้างบ้าน คุณลุงมีโรคประจำตัว คือ เบาหวานระดับรุนแรง ตัวเหลือง ก็เลยใช้พลังจิตในการรักษา ซึ่งช่วงแรก ๆ คุณลุงยังกินยาตามปกติที่หมอให้มา แต่ตอนนี้ลุงไม่ต้องกินยาอีกแล้ว ซึ่งพลังที่ได้ไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว วันนี้ลุงหายจากอาการดังกล่าว

    จากการรักษาคุณลุง  ก็มีคนอื่น ๆทยอยกันมาให้ช่วยรักษา ทั้งโรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ มะเร็ง เส้นเลือดตีบ ปวดเข้า ปวดหัว ปวดคอไมเกรน มือเท้าชา นิ้วล็อค หูดับ จอประสารทเสื่อม อัลไซเมอร์ เป็นต้น

     สิ่งสำคัญในการรักษา ผู้ป่วยที่เข้ามาต้องนึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ปฏิบัติธรรมอันยิ่งใหญ่  ผู้ให้พลัง  เพราะถือว่าเป็นอาจารย์และเป็นการสำนึกถึงครูอาจารย์ และ ต้องนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม ถือศีล สิ่งเหล่านี้

    “ร่างการมนุษย์ เปรียบเหมือนคอมพิวเตอร์การรับพลังงานเข้าไปเหมือน เป็นการนำโปรแกรมไปล้างไวรัสนั่นคือพลังงานลบ ซึ่งหลังลงโปรแกรมใหม่แล้ว พลังงานดีๆ ก็ยังคงอยู่ได้ในระยะหนึ่งหากแต่ถ้าบุคคลนั้นเป็นคนคิดลบ คิดร้าย ก็จะเหนี่ยวนำพลังงานลบๆเข้ามาสู่กาย ใจตามกฎแห่งแรงดึงดูด เช่นเดิม การรักษาด้วยพลังงานจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้รับการรักษาต้องมีจิตที่เป็นกุศลมีความศรัทธาและมีความเชื่อในตัวผู้ให้พลังพลังงานดีๆจึงจะสามารถถ่ายทอดและเห็นผลได้อย่างดี หากจิตปิดกั้นผลของการรักษาจะได้สามารถบำบัดได้เต็มร้อย”

   อาจารย์วิ ยังได้กล่าวอีกว่า สิ่งที่ปรารถนา คือการให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ ซึ่งหากพวกเราใช้พลังจิตในตนเองมาบำบัดเยียวยาตน เราจะช่วยคนได้มาก เพราะพลังจิตออร่านี้ให้ผลการรักษาได้จริงการรักษาแบบนี้ปรากฏหลักฐานมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลต่างประเทศมีการยอมรับในเรื่องนี้กันมาก แต่คนไทยอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชินกับศาสตร์พลังงานดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าต่อไปคนไทยจะให้การยอมรับศาสตร์แห่งพลังบำบัดกันมากขึ้น

   ทั้งนี้ การเกิดโรค การเจ็บป่วย เป็นผลของกรรม กรรมจากอดีตส่งผลถึงปัจจุบัน ดังนั้นการทำพลังงานบริสุทธิ์หรือพลังจิตทิพย์เข้าไปเยียวยา จึงเป็นการสร้างกุศลแผ่ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร เพื่อปลดปล่อย เพื่อมอบทางสว่างแด่สรรพสิ่งต่างๆเพื่อการขออโหสิกรรม

   “แม้ชีวิตจะมีความพร้อมในรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ แต่การที่เราช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ช่วยเหลือคนป่วย ด้วยใจ นั่งคือความสุขที่ได้อย่างแท้จริง การถ่ายทอดพลังงานบริสุทธิ์ในการรักษา การช่วยเหลือผู้ป่วยให้หายทนทุกข์ มันเป็นความสุขยิ่งกว่าสุข”

    การเผยแพร่ศาสตร์ในการรักษาด้วยพลังจักรวาล พลังจิตทิพย์ ซึ่งเป็นพลังงานธรรมชาติที่บริสุทธิ์เป็นแม่เหล็กในการถ่ายทอดข้อมูลออกมาเป็นอนุภาพเยียวยาสิ่งไม่ดีให้กลับมาดีได้

   วันนี้ อาจารย์วรรณวิไล กันเพ็ชร์  เปิดศูนย์พลังงานบำบัดและแพทย์ทางเลือก พร้อมเผยแผ่ศาสตร์ด้านพลังบำบัด แก่ผู้ที่สนใจ2 แห่ง ได้แก่ ศูนย์จังหวัดอุบลราชธานี(สำนักงานใหญ่) ในนาม คลินิกแพทย์แผนไทยอโรคยาวรรณวิไล ตั้งอยู่เลขที่ 80/490ม.23 ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และศูนย์กรุงเทพฯ (สาขา) ในนาม ศูนย์แพทย์ทางเลือกและ ศูนย์ดูแลสุขภาพองค์รวม วรรณวิไล ตั้งอยู่เลขที่ 3 ซอย สุขุมวิท 54 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร

ผู้สนใจสามารถสอบถามได้ที่อาจารย์วรรณวิไล กันเพ็ชร์ 063 768 5599,พะเยา วังมงคล (ป้าปุ้ย)099 141 6994