เสน่ห์วิถีชุมชนจากอดีตสู่ปัจจุบันตลาดอิงน้ำสามโคก สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสู่ท้องถิ่น



จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 สื่อมวลชนสัญจร "ตลาดอิงน้ำสามโคก" ชมวิถีชีวิตคนริมน้ำ อาหารอร่อยของชุมชน สามโคก  วันนี้นักท่องเที่ยวเข้ามา ชม ชิม ช้อป ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เงินสะพัดหลักล้านหลายสิบล้าน
 

 จากผลสำเร็จโครงการถนนสายวัฒนธรรมตลาดอิงน้ำสามโคก ชาวชุมชนพร้อมใจต้อนรับนักท่องเที่ยวสัมผัสวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชุมชน อาหารอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยอิทธิพลไทย รามัญ จีน มุสลิม รวมทั้งผลิตภัณฑ์ชุมชน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน  ตามนโยบายของภาครัฐ เตรียมนำความสำเร็จจากโครงการนี้เป็นแนวทางในการส่งเสริมพัฒนาต่อยอดสู่โครงการอื่น
 

นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี

นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า  ความสำเร็จของโครงการถนนสายวัฒนธรรม ตลาดอิงน้ำสามโคก จังหวัดปทุมธานี ว่า หลังจากจังหวัดปทุมธานี ได้จัดโครงการถนนสายวัฒนธรรม ตลาดอิงน้ำสามโคก จังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา พบว่าชาวชุมชนที่เคยค้าขายอยู่ในตลาดอิงน้ำสามโคก ทั้งที่เลิกค้าขายไปแล้วและที่ออกไปค้าขายที่อื่นตามการเปลี่ยนแปลงของชุมชน ได้กลับมาค้าขายในพื้นที่ตลาดอิงน้ำสามโคกอีกครั้งเป็นจำนวนมาก จากที่ก่อนเปิดโครงการมีร้านค้าเพียง 20 กว่าร้าน จนในปัจจุบันมีร้านค้ากว่า 120 ร้าน จำนวนนักท่องเที่ยวจากที่เคยมีเพียงไม่เกิน 100 คน/วัน ในช่วงวันหยุด ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่า 1,500 คนต่อวันและมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งจากการประเมินตามร้านค้าพบว่าในแต่ละวันที่ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมมีเงินหมุนเวียนภายในชุมชนกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งหากนับจากวันเริ่มโครงการ มีเงินสะพัดภายในตลาดเกือบ 30 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 2 เดือน

นางสาว ฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี

 

จากมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นแล้ว ชาวชุมชนยังได้พร้อมใจกันสรรหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นภูมิปัญญาและฝีมือของท้องถิ่นออกมาให้นักท่องเที่ยวได้ชม ชิม ช้อป อาทิเช่น ข้าวแช่   แกงมะตาด ขนมจีนชาวน้ำ หรือการปักสะไบมอญ ด้วยอัธยาศัยการเป็นเจ้าบ้านที่ดีของชาวสามโคกให้แก่นักท่องเที่ยวที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมภายในตลาดอิงน้ำสามโคก ตลอดระยะเวลาจากเริ่มโครงการจนเป็นที่ประทับใจแก่นักท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังเสริมสร้างให้เด็ก เยาวชน ในท้องถิ่น โดยมีเวทีในการแสดงทางวัฒนธรรม เกิดทัศนคติที่ดีและหวงแหนชุมชน ภาคภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นของตนเองผ่านการแสดงในทุกวันจัดกิจกรรมที่เวทีการแสดง

นายชาญ พวงเพชร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี

“การจัดโครงการถนนสายวัฒนธรรม ตลาดอิงน้ำสามโคก จังหวัดปทุมธานี เป็นการเปิดเส้นทางและพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรม โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนมีพื้นที่ในการนำเสนอและจำหน่ายสินค้า ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนมีรายได้ กินดีอยู่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืนตามนโยบายของภาครัฐ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้ จะเป็นแนวทางในการส่งเสริมพัฒนา เพื่อเป็นการพัฒนาต่อยอดสู่โครงการอื่น ๆ อีกมากมาย”

 "เสน่ห์ตลาดอิงน้ำ" ชมพิพิธภัณฑ์อาคารที่ว่าการอำเภอสามโคกหลังเก่า ด้านหน้ามีรูปปั้นสุนทรภู่ เดินชิว ๆ เข้าตลาด ชิมอาหารที่ชาวบ้านนำมาขายกันสด ๆ แวะชิมก๋วยเตี๋ยวขึ้นชื่อที่อยู่กับชุมชนมานานหลายรุ่น ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวคุณหยอง หรือจะเป็นผัดไทย ขนมจีนซาวน้ำ ปูหลน ยำปู รสเด็ดโดนใจ หาซื้อกลับบ้านได้ เดินต่อไปนิดถ่ายภาพธรรมชาติบนสะพานข้ามคลอง มองเห็นปลาเสือพ่นน้ำ  เดินไปนิดเพื่อไปกราบศาลเจ้า ที่คนแถวนั้นนับถือ (จากที่เคยมีเรือพุ่งชนบ้านริมน้ำไฟไหม้ แต่ศาลกลับไม่เป็นอะไร) และติดกันนั้น ยังมีบ้านเสือที่รวบสิ่งของที่เป็นรูปเสือไว้มากมาย รวมถึงมองไปยังเห็นโรงหนังเก่า และ Street Art  ความเป็นชุมชนผสมผสาน ประวัติศาสตร์ของคนสามโคก นอกจากนี้เลยไปนิดจะเจอวัดบางเตยนอก วัดบางเตยกลาง

ตลาดอิงน้ำสามโคก ตั้งอยู่ที่อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี  แหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุง  ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย-ต่างชาติ ได้สัมผัสกับวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชุมชน อาหารอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยอิทธิพลไทย รามัญ จีน มุสลิม จากชาวบ้านในพื้นที่ ราคาไม่แพง รวมทั้งผลิตภัณฑ์ชุมชน และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เช่น อาคารที่ว่าการอำเภอสมัย รัชกาลที่ 6 อนุสาวรีย์สุนทรภู่ วัดบางเตย ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ ฯลฯ พร้อมมุมถ่ายรูป ชิค ชิค ทั้ง Wall Art  วิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา  เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 09.00–16.00 น. ด้วยบรรยากาศชุมชนที่ยังคงวัฒนธรรมประเพณีและวิถีความเป็นอยู่ ซึ่งมีแม่น้ำลำคลองเป็นเส้นทางสัญจร เป็นตลาดเก่าดั้งเดิมที่ทำมาค้าขายทางเรือกันมาอย่างราบรื่นหลายชาติพันธุ์  ทั้งชาวไทย ชาวมอญ ชาวจีน และชาวมุสลิม ที่อาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกันอย่างมีความสุข

สำหรับการเดินทางก็ไม่ไกลจากกรุงเทพเลย สามารถไปเที่ยวแค่ one day tripได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมง นับว่าเป็นสถานที่อีกหนึ่งแห่งในใจแอดมินผู้ซึ่งรักวิถีชีวิตแบบชุมชน ชีวิตที่เรียบง่าย แอบแฝงไปด้วยเสน่ห์และมนต์ที่จะทำให้ทุกคนหลงรัก