สยามย้อนรอยอโยธยา



เมืองกรุงเก่า เล่าขานตำนานประวัติศาสตร์ ศาสนสถานที่ยังเหลือให้ลูกหลานได้ชื่นชม 500 กว่าวัดที่จังหวัดอยุธยา ถูกตีตราขึ้นทะเบียนไปแล้ว 300 กว่าวัด ที่เหลือยังไม่สามารถหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ยืนยันได้แน่ชัด

     

 วัดแคราชานุวาส

ประวัติศาสตร์อยุธยา มีให้นักท่องเที่ยวได้ค้นหา และศึกษา มากมาย วันนี้เราได้ไปชมความงามของที่เที่ยวแห่งใหม่ ในวันเดียว ในโครงการ“เที่ยวเก๋ไก๋ สไตล์ลึกซึ้ง”วันเดียว เที่ยว 3 เกาะ (เกาะเมือง เกาะลอย เกาะวัดช่องลม) 1. วัดแคราชานุวาส เกาะลอย  2. วัดช่องลม เกาะวัดช่องลม  3. วัดตองปุ เกาะเมืองอยุธยา

วัดช่องลม

        การเดินทางเที่ยว 3 เกาะ จุดมุ่งหมายแรก ไปวัดแคราชนุวาส โดยลงเรือที่ท่าที่ศาลาท่าน้ำ หน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ วังจันทรเกษม นั่งเรือรำย่อม ๆ ได้5-6 คน สัญจรทางน้ำ นั่งไปประมาณ 10 นาทีก็ถึงจุดมุ่งหมาย

        วัดตองปุ

        เมื่อขึ้นที่ท่าน้ำ วัดแคราชานุวาส  สิ่งแรกที่ต้องสักการะ คือ หลวงปู่ทวด องค์ใหญ่ตั้งตระหง่าน โดยมีมัคคุเทศก์น้อยค่อยให้ข้อมูลนักท่องเที่ยว โดยวัดนี้เป็นวัดที่หลวงปู่ทวดได้เคยจำพรรษา เมื่อครั้งเดินทางมาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หากได้เดินทางมาที่นี่จะได้นมัสการหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ปางธุดงค์  วิหารหลวงปู่ทวด ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งกุฏิเดิมของหลวงปู่ทวด

 วัดช่องลม วัดเล็ก ๆ บนเกาะ โดยพื้นที่บนเกาะนี้มีบ้านปลูกอยู่รวมกันประมาณ 8 หลังคาเรือน  พระพุทธรูปจะหันไปทางทิศตะวันตก  ซึ่งองค์ใหญ่สุดพระพุทธรูปองค์ขาว เป็นตำนานหาที่มาไม่ได้ว่าสร้างในสมัยไหน แต่ที่เด่นชัดคือ ศีรษะขององค์ท่านทำจากโอ่งใบใหญ่ทั้งใบ ถึงแม้ที่นี้จะเป็นวัดเล็ก ๆ แต่คนในหมู่บ้านได้จัดงานประจำปี 22-23 เมษายน ในภาคกลางคืน เป็นการสักการบูชาพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนเกาะ วัดช่องลม

        วัดตองปุ ในสมัยก่อนเรียกวัดตองปู ด้วยเหตุเพราะเมื่อชาวบ้านมาทำบุญ นอกจากใช้ใบตองห่ออาหารแล้วนั้น ยังใช้ใบตองในการปูรองนั่ง แต่หลัง ๆ ชื่อได้เพี้ยนไปเป็นวัดตองปุ  วัดแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ในการสู้รบ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

       วัดชัยวัฒนาราม

        นอกจากวัดบนเกาะทั้ง 3 แห่ง อีกหนึ่งวันที่ต้องห้ามพลาด "วัดพระงาม" วัดแห่งนี้อยู่ในชุมชนมีผู้นับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ มีเพียงลุงแขก ชาวพุทธเพียงครอบครัวเดียวที่อยู่แถบนั้น มองเห็นความงามของที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ลุงแขกนักปั้นงานศิปละได้พยายามดูแลรักษา ทำความสะอาด รวมทั้งอบรมสั่งสอนเด็กในละแวกนั้น ให้หันหาธรรมะ ซึ่งวัดแห่งนี้ลุงแขกบอกว่าการดูแลทั้งหมดเป็นเงินของลุงเอง แต่ก็ไม่เพียงพอ ทำให้ลุงต้องตั้งตู้รับบริจาคเพื่อเป็นรายได้ในการดูแลวัดไม่ให้รกร้าง จนวันนี้วัดพระงาม เป็นที่รู้จักและถูกกล่าวขานถึงความงาม โดยเฉพาะผู้ที่ชอบถ่ายภาพ ต้องห้ามพลาด ในเวลาเช้าและเย็นแสงที่ส่องรอดประตูกาลเวลา งามยิ่งนัก

วัดพระงาม

จิตรกรรมฝาผนังวัดพุทธไทสวรรย์