วช. หนุนท่องเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนอำเภอลานสกา สู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม เชิงสร้างสรรค์



สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ดูงานแหล่งท่องเที่ยว เชิงสร้างสรรค์ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 1 กันยายน 2561 ณ อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมของประเทศกลุ่มเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์

ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า โครงกำร Innovation Hubs เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมของประเทศตามนโยบาย Thailand ๔.๐ กลุ่มเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) เป็นความร่วมมือภายใต้บันทึกข้อตกลงระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และเครือข่าย วิจัยอุดมศึกษา 9 ภูมิภาคเพื่อร่วมมือในการดำเนินเผยแพร่ผลงานในโครงการ Innovation Hubs โดยตกลงที่ จะให้ความร่วมมือกัน

ดังนี้ 1. ร่วมกันสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชน และ ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้เพื่อที่จะได้นำความรู้และเทคโนโลยีมมบูรณาการกับศักยภาพท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่การ พัฒนาประเทศตามนโยบาย Thailand 4.0 2. เพื่อเผยแพร่ผลงานและข้อมูลการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่าย เพื่อไปสู่การค้นคว้าและสร้างแรงบันดาลใจ

ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาและต่อยอดศักยภาพต้นทุนของชุมชน และ 3. นำองค์ความรู้ผลงานวิจัยและเทคโนโลยีเครือข่ายวิจัยอุดมศึกษา ไปใช้ประโยชย์ต่อชุมชนท้องถิ่น และ เผยแพร่ให้สาธารณะชนได้รับทราบซึ่งโครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนงบประมาณแผ่นดินในปี 2560 เพื่อพัฒนาโครงสร้างการจัดการ และกำลังคน เพื่อให้เกิดการบูรณาการความรู้หรือเทคโนโลยีที่เกิดจาก ผลงานวิจัยภายในมหาวิทยาลัยกับต้นทุนภูมิปัญญาหรือทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น ตลอดจนการพัฒนา จนเกิดเป็นนวัตกรรมที่ทำให้เกิดเป็นสินค้าหรือบริการ ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ด้วยความคิดสร้างสรรค์

ผศ.ดร.อริศร์ เทียนประเสริฐ ประธานคณะกรรมการ Innovation Hub กล่าวว่าโครงการ“พัฒนา ศักยภาพวิสาหกิจชุมชนเครือข่ายการท่องเที่ยวชุมชนอำเภอลานสกาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงคุณภาพทาง ไทยแลนด์4.0” เป็นโครงการหนึ่งในโครงการ Innovation Hubs เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมของ ประเทศตามนโยบาย Thailand ๔.๐ กลุ่มเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์(Creative Economy) ซึ่งได้มีการทำวิจัย แบบมีส่วนร่วม ซึ่งรวมทั้งหมด 6 กิจกรรม ได้แก่ 1) กำรค้นหาอัตลักษณ์และแบรนด์ทางการตลาดของแหล่ง ท่องเที่ยวในอำเภอลานสกา 2) การยกระดับที่พักและร้านอาหาร 3) การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ4) การเตรียมความพร้อมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร5)การออกแบบสินค้าที่สื่อถึงอัตลักษณ์ความเป็นลานสกา และ 6) การออกแบบท่องเที่ยวลานสกา

ซึ่งพื้นที่ทำการวิจัย ได้แก่หมู่บ้านคีรีวงบางแห่ง ตำบลเขาแก้ว อำเภอลานสกา ผลการวิจัยพบว่าจุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวลานสกาคือมังคุดที่มีอายุยืนยาวกว่า100 ปี ซึ่งมีประวัติศาสตร์ เชื่องโยงกับหลวงพ่อมังคุด ดังนั้น ‘มังคุด’ จึงเป็นจุดขายของอำเภอลานสกา และนำมาซึ่งผลงานที่สื่อถึงการ ท่องเที่ยวของอำเภอลานสกา

โดยใช้มังคุดเป็นต้นแบบของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในแหล่งท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการออกแบบเป็นหมวกหมอนมังคุดผลิตภัณฑ์ที่เป็นอัตลักษณ์ของลานสกา ‘น้องมังคุด’ ซึ่งอยู่ระหว่าง การยืนขอจดทะเบียนสิทธิบัตร นอกจากนี้ยังมีการใช้คิวอาร์โค้ดแทนเอกสารท่องเที่ยว

โดยมีการนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวถ่ายทอด เป็นหนังสั้นเพื่อให้เกิดความน่าสนใจ ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ จะมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบดั้งเดิม และเชิงเกษตรแนวใหม่ แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่พักในรูปแบบ โฮมสเตย์ร้านเครื่องดื่มที่คงความเป็นท้องถิ่นเดิมเช่น ลานสกาค๊อฟฟี่ เป็นต้น