รูปหล่อสำริดมหาเทพกวนอู สูง 16 เมตร รวมฐาน ในพื้นที่เกาะสมุย ซึ่งถือได้ว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แหล่งท่องเที่ยวของแห่งใหม่ ซึ่งในวันที่ 14 มกราคม 2559 ทำพิธีเปิดศาลที่สมบูรณ์แบบอย่างเป็นทางการ
ศาลเจ้ากวนอู เกาะสมุย กล่าวกันว่า คหบดีคนจีนไหหลำ (คนจีนดั้มเดิมบนเกาะสมุยทั้งหมดอพยพมาจากเกาะไหหลำ และส่วนมากมาจากอำเภอ บ่วนเซียวหรือ เหวินชางในปัจจุบัน)ได้นำมาเอาเทวรูปไม้แกะสลักทั้งสี คือ กวั๋นก๋ง(กวนอู) และองครักษ์ซ้ายกวา คือ กวนเพ้งหรือ กวนเป๋ง(ก๋งหน้าขาว)และจิวซ่าง(ก๋งหน้าดำ) และอีกองค์เทพแห่งที่ดินหรือเจ้าที่ คือ บุ๋นเถ้ากง โดย เทวรูปกวั๋นก๋งและบุ่นเถ้ากงเป็นองค์ใหญ่ ส่วนที่เหลือองครักษ์เป็นไม้แกะสลักขนาดเล็กกว่า ซึ่งได้นำมาตั้งแต่ พ.ศ.2400 รวมเป็นเวลา 158 ปี ขณะนี้ซึ่งนับว่าเก่าแก่มาก
ความศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าฯ เป็นที่ร่ำลือกันในยุคนั้น เฉกเช่นเดียวกับ ศาลเจ้ากวั๋นก๋งไหหลำอื่น ๆ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีและใกล้เคียง เช่น ศาลเจ้าเกาะแรด ศาลเจ้าปากกะแดะ ศาลเจ้าทับสะท้อน และศาลเจ้ากวั่๋นก๋งที่ขนอม จ.นครศรีฯ
เดิมต้้งอยู่ที่บ้านหน้าค่าย (ทางทิศใต้ปัจจุบันตามประวัติเป็นที่ตั้งค่ายทัพเสบียงกรุงศรีอยุธยาเวลามาตีหัวเมืองปักษ์ใต้ ซึ่งมาปลูกข้าวกันที่ทุ่งหน้าเมืองใกล้ ๆ กัน) ต่อมาในปี พ.ศ. 2478 ได้ย้ายมาที่ตลาดหัวถนน ก็ยังเป็นศาลเจ้าไม้เคี่ยมเล็ก ๆ แบบชนบท กาลต่อมาก็ทรุดโทรมไม่มีผู้ดูแล จนต้องปิดประตูศาลเจ้าฯ ด้วยอนุชนคนรุ่นหลังไม่มีคนสืบทอดภาษาจีนได้ และต้องมีภารกิจไปเรียนหนังสือ และทำงานที่กรุงเทพฯ เป็นส่วนใหญ่ เปิดเฉพาะเทศกาลตรุษจีนให้คนเชื้อสายจีนมากราบไหว้บูชา
พ.ศ. 2551 คณะกรรมศาลเจ้าฯใหม่ภายใต้การนำของ นายวิรัช พงศ์ฉบับนภา ได้เข้ามาฟื้นฟู ขยายซื้อที่ดีนใหม่ให้ศาลเจ้า พร้อมออกแบบอาคารใหม่ รักษาอาคารไม้เคี่ยมคงเดิมไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็น พร้อมต่อเติมศาลารายใหม่ และเปลี่ยนชื่อใหม่จาก ศาลเจ้าหน้าค่าย เป็น ศาลเจ้ากวนอูเกาะสมุย(หน้าค่าย-หัวถนน)
พ.ศ.2555 คณะกรรมการศาลเจ้าฯเห็นว่าเกาะสมุยเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของชาติ สมควรสร้างสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ จึงมีมติสร้างองค์เทพเจ้ากวนอูสำริด ขนาด 16 เมตร รวมฐาน ซึ่งนับว่าสูงและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่า 18.5 ล้านบาท
