“น้อย วงพรู”ทุ่มสุดตัว“ขุนพันธ์”พร้อมแบ่งเวลาอ่านหนังสือให้ลูกฟัง



เสี่ยเจียง-สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ  อยากทำหนังเชิดชูคนดีขึ้นมา จึงมอบหมายให้ ปรัชญา ปิ่นแก้ว เฟ้นหาผู้กำกับได้  โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ  สานฝันภาพยนตร์แอ็คชั่นเหนือจินตนาการเรื่อง“ขุนพันธ์”  เรื่องจริงที่ไม่มีใครรู้! ยอดตำรวจวีรบุรุษปราบมหาโจรที่กระสุนไม่อาจทำอะไรได้  ซึ่งเป็นการโคจรมาเจอกันของนักแสดงฝีมือฉกาจ  อนันดา เอเวอริงแฮม ในบท ขุนพันธ์  ปะทะ กฤษดา สุโกศล แคลปป์ ในบท อัลฮาวียะลู มหาโจร  ร่วมด้วย ชูพงษ์ ช่างปรุง, พิมลรัตน์ พิศลยบุตร, ภคชนก์ โวอ่อนศรี, กานต์พิสชา เกตุมณี, สนธยา ชิดมณี   ซึ่งในงานแถลงข่าวได้เห็นทีเซอร์ฉากสำคัญของขุนพันธ์นั่งคุยประจันหน้ากับอัลฮาวียะลู ซัดกระสุนใส่มหาโจรหงายหลัง ปรากฏว่ามันไม่ตาย! ลุกขึ้นมาเย้ยหยันขุนพันธ์พร้อมกระสุนที่อยู่ในปากไม่ระคายผิวสักนิด  นักแสดงทั้งสองถ่ายทอดพลังปลดปล่อยใส่กันได้น่าทึ้ง! อึ้ง!  และเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น โดยน้อย-กฤษดาเผยถึงบทบาทและหนังสือโปรดที่อ่านให้ลูกๆฟังอย่างมีความสุข

                “ผมก็ไม่รู้นะว่าคนในกองไม่กล้าเข้ามาหามาคุยกับผมนะ จริงเหรอ เพิ่งรู้นะฮะ ฮ่าๆๆ  มันก็ต้องตั้งสมาธิต้องเตรียมหน่อยกับบทอัลฮาวียะลู มันไม่ใช่เหมือนลูกทุ่งซิกเนเจอร์ ก่อนถ่ายทำผมก็หวัดดีหรือคุยกับคนอื่นได้ เพราะว่าคาแรกเตอร์ไม่ได้เป็นคนเล่นของหรือเป็นคนที่โกรธอย่างคาแรกเตอร์อัลฮาวียะลูนะฮะ และผมต้องใช้คำพูดสมัยโน้นซึ่งมันยากสำหรับผมมากค่ะ เพราะขนาดภาษาไทยผมยังไม่แข็งแรงเลย ผมต้องเตรียมอารมณ์เข้าไปทำสมาธิอยู่ในรถ เพราะแต่ละฉากที่ผมเล่นมันแรงเกือบทุกฉาก ทุกซีนเหมือนผมให้คำสั่งกับทุกคนเสมอฮะ  เลยต้องหาเทคนิคที่จะเตรียมตัวยังไงก็แต่ละซีนแต่ละฉาก อย่างฉากที่ผมนั่งคุยกับอนันดา มันใช้เวลาแค่ประมาณ 3 ชั่วโมง ก่อนถ่ายผมต้องเตรียมพร้อมเพราะผมต้องพูดไดอะล็อกหน้าหนึ่งกับคำที่ผมไม่คุ้นเคย ผมก็ตั้งใจท่องบทมานานแล้วผมก็โอเคแล้ว มันเป็นฉากครั้งแรกที่เราเผชิญหน้ากันฮะ เผชิญหน้ากันในแบบที่รู้ว่าใครเป็นใครนะฮะ แต่ก่อนหน้านี้ผมนั่งในรถ พอดีเราถ่ายที่กุยบุรี มีภูเขาเยอะแยะที่เขาสามร้อยยอด ผมก็ขับไปขับมาดูภูเขาแล้วผมก็เปิดเพลงสร้างอารมณ์เหมือนกับนี้คือบ้านของผมและผมก็ต้องมาเผชิญหน้ากับขุนพันธ์ศัตรูเรา พอเขาพร้อมก็จะโทรมาหาผมๆก็ขับรถกลับมาเข้าฉาก คืออารมณ์มันมาแล้วฮะ บางทีมันก็มีดีเลย์ 2-3 ชั่วโมงบ้าง ผมก็จะเริ่มหงุดหงิดเหมือนผมพีคแล้ว พอพร้อมแล้วเขาก็จะโทรหาผมก็ขับแล้วคิดว่าภูเขานี่เป็นบ้านผมแล้วคิดว่าไอ้ตำรวจคนเนียมันจะมาทำลายบ้านผม ในแง่มุมไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าจะเป็นโจรที่ไหนในโลกเขารู้สึกว่าเขาถูกครับ การเตรียมตัวของผมในแต่ละซีนมันต่างกันฮะ แล้วผมก็คิดแบบในชีวิตจริง โอเคถ้าเกิดตำรวจมาทำร้ายลูกผม มาฆ่าลูกผมๆไม่ยอมนะ ผมคิดแบบนั้นมันก็เริ่มโมโหแล้ว อารมณ์ผมมาแล้วนะ ผมใช้จินตนาการคิดว่าสถานการณ์ใดทำให้เราโกรธจนไม่ยอมจริงๆ  ถึงทำให้เหนื่อยมากพอเล่นเสร็จฮะ แม้ผมไม่ต้องชกอะไรมากมายเหมือนอนันดา แต่ว่ามันเหนื่อยใจมากกว่าฮะ  แล้วก็มีหนังช่องทรู เรื่องนี้เป็นหนังโรแมนติกนิดหน่อย(หัวเราะ) ถ่ายทำเสร็จแล้วแต่ไม่รู้เขาจะเข้าฉายเมื่อไหร่ นางเอกวีเจจ๋าฮะ เรื่องนี้ก็เบาหน่อยฮะ บทเป็นผู้ชายที่สุภาพ สำหรับผมมันก็ท้าทายในแง่มุมนานทีผมจะมีโอกาสพูดโต้ตอบกลับผู้หญิง ส่วนมากคนก็ชอบให้ผมแสดงอารมณ์แรงอย่างงั้นฮะ เรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้ต่อบทกลับไปกลับมากับผู้หญิงฮะ  ฮึๆๆ ซึ่งผมไม่มีโอกาสอย่างนี้เท่าไหร่(หัวเราะ) ก็เลยอยากเล่น อยากลองเล่น พอเล่นมันก็เขินๆนิดหน่อยฮะ การแสดงมันไม่เคยง่าย มันยากเสมอสำหรับน้อยฮะ

                ส่วนมากก็อ่านหนังสือจากโรงเรียนของลูกฮะ โรงเรียนเขาก็ดีให้การบ้านโดยให้เด็กอ่านหนังสือฮะ เขาให้อ่านเรื่องราวแล้วสอบกับหนังสือเล่มนี้ฮะ ผมก็อ่านให้ลูกฟังหรืออ่านกับลูกฝึกฝนในการอ่านฮะ ลูก 2 คน Finnegan คนโตอายุ 9 ขวบ คนเล็ก Rosalie อายุ 7 ขวบฮะ ช่วงที่เขาเด็กๆอ่านให้เขาฟังบนเตียงก่อนนอนฮะ และผมเล่นเสียงเก่งนะฮะ เพราะผมมีคาแรกเตอร์เยอะมาก แม้แต่ไม่ต้องอ่านหนังสือผมก็ทำเสียงเก่งเป็นเหมือนกับพวกหนังการ์ตูนที่เราดู ไม่ว่าจะเป็นเสียงผู้หญิง เสียงตัวไม่ดี เพราะเสียงผมก็สูงอยู่แล้วก็ทำเสียงผู้หญิงได้(หัวเราะ) แล้วก็เป็นปีศาจได้  ลูกผมก็ชอบตรงเนี่ย  ผมก็มีหลายคาแรกเตอร์  เวลาเราอ่านเรากลายเป็นคาแรกเตอร์เราไม่ได้อ่านแบบน่าเบื่อเราอ่านแบบให้เขาสร้างจินตนาการในรูปเขาก็จะชอบแล้วเขาก็จะอยากอ่านฮะ เพราะการอ่านหนังสือสำหรับเด็กมันก็เป็นการสร้างจินตนาการ เหมือนเขาได้ไปดูหนังแต่ไปดูหนังในใจฮะ การอ่านหนังสือมันเป็นการเรียนรู้ฮะ บางทีอ่านเพื่อความสนุกก็ได้แต่มันเป็นการใช้จินตนาการฮะ และการอ่านหนังสือนี้เป็นเอ็นเตอร์เทนที่ไม่ใช้ตังค์อะไรมากมาย  ไม่เหมือนไปดูหนังเรื่องหนึ่งฮะ ถ้าหนังสือเล่มละ 100 อ่านได้ยาวเลย หยิบมาอ่านได้หลายครั้งไม่ใช่เหมือนไปดูหนังมันก็แพงขึ้นแล้ว  ซึ่งมันเป็นการสร้างความรู้และใช้จินตนาการนะฮะ และการอ่านหนังสือก็เป็นการเรียนรู้กับคนหลากหลายเราก็จะเป็นมนุษย์ที่ดีขึ้นนะฮะ เพราะเราเริ่มรู้แล้วว่าทำไมคนโน้นคนนี้เขาคิดอย่างนู้นอย่างนี้ มันก็ทำให้เราเริ่มไม่เข้าใจคนนั้น เข้าใจว่าทำไมเขาไม่เห็นด้วยกับเรา ถือเป็นการสร้างมนุษยสัมพันธ์เราให้ดีขึ้นกับการอ่านหนังสือนะฮะ และเรียนรู้เกี่ยวกับคนที่หลากหลาย หรืออ่านเพื่อสนุก  แต่ในความคิดผมอ่านเพื่อจินตนาการซึ่งตรงนี้สำคัญนะฮะ อย่างเวลาเล่นเกมมันไม่ต้องใช้จินตนาการมากมาย  เด็กทุกคนมัวแต่เล่นเกมมากเกินไปในโทรศัพท์ หรือกับPlaystation มันไปทางนั้นมากเกินไปแล้ว มันก็เป็นปัญหาจริงๆฮะ ไม่ใช่สำหรับคนทั่วไปสำหรับลูกผมด้วย  จึงอยากให้หันมาอ่านหนังสือเยอะขึ้นฮะ”