หนังดังติดดาว มาดูว่าหนังเรื่องไหนจะได้วิจารณ์ดีสุด ดาวเยอะสุด



M PICTURES ส่งเด็กเนิร์ดเป็นฮีโร่! ใน “I AM A HERO -ข้าคือฮีโร่” หนังดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนชื่อดังของ เคนโกะ ฮานะซาวะ ในชื่อเดียวกัน และหนังเคยคว้ารางวัลการ์ตูนแห่งปี Shogakukan Manga Award ในปี 2013 แถมยังถูกนำไปแปลเป็นภาษาต่างๆ มากมายรวมถึงภาษาไทย ที่ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ สยามอินเตอร์ คอมิกส์  ซึ่งนำแสดงโดย โย โออิซุมิ, มาซามิ นางาซาว่า, คาซุมิ อาริมุระ งานกำกับของ ชินซุเกะ ซาโต  เมื่อญี่ปุ่นเกิดการระบาดของไวรัส  ZQN ทำให้ประชาชนกลายเป็นซอมบี้ ชายหนุ่มธรรมดาๆ ที่มีอาชีพผู้ช่วยนักเขียนการ์ตูนนามว่า ฮิเดโอะ ซูซุกิ (ฮิเดโอะ ที่สะกดมาจากคำว่าวีรบุรุษ หรือ HERO) มาพร้อมปืนลูกซองเพื่อกอบกู้วิกฤตการณ์ครั้งนี้  

                หนังถูกนำไปฉายในเทศกาลหนัง Catalonian International Film Festival 2015 ที่ประเทศสเปน พร้อมกวาดคำชมจากนักวิจารณ์อย่างท่วมท้นจนคว้ารางวัลหนังยอดเยี่ยมขวัญใจผู้ชม และคว้ารางวัลอีกหลายเทศกาล ซึ่งเรื่องนี้บอกตรงๆ เลยว่าไม่มีความคาดหวังใดๆ แต่หนังทำได้ดีเกินคาดจริงๆ ซอมบี้ที่แปลกใหม่มาก ตัวเอกที่มาจากคนที่ไม่น่าจะเป็นฮีโร่ได้ก็เล่นได้ดี ทำให้หนังดูสนุกไม่แปลกใจที่กวาดรางวัลจากหลายเทศกาล ถือว่าคุ้มกับเงินที่ต้องเสียตั๋วเข้าดู  ติดให้ *** ครึ่ง

                เฉลยคำถามหนัง“NOW YOU SEE ME 2” : วอเตอร์ มาบรี้

                คำถามหนัง“I AM A HERO - ข้าคือฮีโร่:  พระเอกทำอาชีพอะไร?

                ทราบคำตอบเขียนชื่อ-ที่อยู่- เบอร์โทรศัพท์ลงในไปรษณียบัตร ส่งมาที่  หนังดังติดดาว  32/15  ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขต จตุจักร กรุงเทพฯ 10900   ผู้ตอบถูก 5  ท่าน ได้รับของรางวัลจาก  M PICTURES  (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)

             ไฮแลนด์ ฟิล์ม กรุ๊ป และ เอ็มเม็ตต์ เฟอร์ลา โอเอซิส ฟิล์มส์ ร่วมกับ เฮอร์ริค เอนเตอร์เทนเมนต์ ภูมิใจเสนอ “Precious Cargo”  นำแสดงโดย  บรูซ วิลลิส, มาร์ค-พอล กอสส์ลาร์, แคลร์ ฟอร์ลานี, แดเนียล เบิร์นฮาร์ด, จอห์น บราเธอร์ตัน เขียนบทโดย แม็กซ์ อดัมส์ และ พอล ซีตาชิทท์  กำกับโดย  แม็กซ์ อดัมส์  เรื่องราวเกิดขึ้นชายฝั่งของอ่าวมิสซิสซิปปี้ เรื่องของ แจ็ค นักต้มตุ๋นและหัวขโมยผู้จำเป็นต้องมาเจอกับ คาเรน อดีตคนรักและคู่หูขโมยของเขาได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมลูกในท้องเขา โดยมีเจ้านายที่อาฆาตแค้นเธอตามไล่ล่าไม่ลดละ ซึ่งพล็อตหนังดูมั่วซั่ว จับแพะชนแกะ เล่นท่ายากในอารมณ์ผัวเมียนักเลงปืนที่ทะเลาะกันไปยิงกันไป ดูแล้วนึกถึงหนัง Mr. & Mrs Smith แบบอนาถา ฉากไล่ล่าและฉากยิงประหนึ่งละครไทย พระเอกมีปืนพกยิงไม่กี่นัดเข้าเป้าปึงปัง ผู้ร้ายมีปืนกล แต่ยิงจนกระสุนหมดคลังแสงก็ยิงไม่โดน และการเอาวิลลิสมารับบทเจ้าพ่อ ทำให้คนดูคาดหวังว่าต้องเป็นหนังบู๊สะบั้นหั่นแหลก แต่ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั่งคุยและยืนคุยตลอดทั้งเรื่อง ส่วนนางเอกแอ๊คชั่นเยอะพอสมควร ส่วนตัวประกอบอื่นๆ เหมือนเป็นไม้ประดับไม่ได้มีบทบาทอะไร โดยรวมไม่มีอะไรน่าประทับใจและจดจำ  ไม่ติด *

                ดิสนีย์ และ แอมบลิน เอนเตอร์เทนเมนต์ ร่วมกับ วอลเดน มีเดีย ภูมิใจเสนอภาพยนตร์แฟนตาซีผจญภัย “The BFG” “เดอะ บีเอฟจี - ยักษ์ใหญ่หัวใจหล่อ” ภาพยนตร์สร้างจากนิยายเด็กของ โรอัลด์ ดาห์ล ที่เกี่ยวกับวัยเด็ก เวทมนตร์ของความฝันและมิตรภาพพิเศษสุดระหว่างเด็กหญิงตัวน้อยและยักษ์ใหญ่หัวใจหล่อขึ้นสู่จอเงินเป็นครั้งแรก ผลงานล่าสุดของ สตีเวน สปีลเบิร์ก พ่อมดแห่งฮอลลีวู้ด ซึ่งได้นักแสดง มาร์ค ไรแลนซ์ (เจ้าของ 3 รางวัลโทนี อวอร์ด / 2 รางวัลโอลิเวียร์ อวอร์ดและหนึ่งรางวัลออสการ์ ในบท“ยักษ์ใหญ่หัวใจหล่อ”  นักแสดงหน้าใหม่ รูบี้ บาร์นฮิล ในบท โซฟี เด็กหญิงกำพร้าผู้ผูกมิตรกับเขา ร่วมด้วย เพเนโลเป้ วิลตัน, เจเมน เคลมองท์, รีเบ็กก้า ฮอล, เรฟ สปอล, บิล เฮเดอร์   เรื่องราวของ โซฟี เด็กน้อยที่อาศัยอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าที่ถูกยักษ์จับตัวไปยังดินแดนยักษ์ เธอได้พบกับยักษ์ใจดีที่ไม่กินตน เธอตั้งชื่อมันว่า Big Friendly Giant หรือ BFG เธอและยักษ์เพื่อนรักต้องหาทางเอาตัวรอดจากยักษ์ใจร้าย ทั้งคู่จึงต้องช่วยกันหาทางกำจัดพวกมัน

               สปีลเบิร์ก สามารถเอาเสน่ห์ของนิยายที่เด็กๆ ชื่นชอบมาใส่ในหนังได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งหนังมีความน่ารัก สนุกสนาน ฟีลกู๊ด ภาพสวยสมความเป็น 3D ใครฟังภาษาอังกฤษออกจะฟินขึ้นหลายเท่า ส่วนตัวละครที่เป็นสัตว์ คน ตัวประหลาด เดินเรื่องราวในโลกแฟนตาซีผสมกับโลกจริง ตัวละครที่เป็นคนที่มีชีวิตอยู่จริงๆ เป็นจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด และเมื่อเด็กกับยักษ์มาเจอกัน มันคือความสุดยอดของหนังครอบครัวที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี  ติดให้ **** ครึ่ง

                โคลัมเบีย พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ “The Shallows นรกน้ำตื้น” ผลงานสร้างโดย ไวมาราเนอร์ รีพับลิค พิคเจอร์ส / ออมบรา ฟิล์มส์ ภาพยนตร์โดย โจเม คอลเล็ต-เซอร์รา นำแสดงโดย เบลค ไลฟ์ลี่ การกำกับของ โจเม คอลเล็ต-เซอร์รา  เรื่องของนักศึกษาแพทย์สาวที่หลบมาพักที่ ชายหาดลับในเม็กซิโก เนื่องจากแม่ของเธอเพิ่งเสียชีวิต ชายหาดแห่งนี้เงียบสงบไม่มีผู้คนมาพักและหญิงสาวชื่นชอบการโต้คลื่น แต่หารู้ไม่ว่าในทะเลมีบางอย่างจ้องจะเอาชีวิตเธออยู่ 

               พล๊อตเกี่ยวกับหนังฉลามทั่วๆ ไป แรกๆ จะเน้นความสวยงามของทะเลแห่งนี้ ซึ่งต้องชมว่าถ่ายสวยงามมาก ทำให้เข้าใจถึงความวางใจจากอันตรายที่จะเกิดขึ้น และก็ขายความเซ็กซี่ ความสวยของนางเอกได้คุ้มค่าและสวยงาม แต่พอมาถึงช่วงฉลามโผล่จู่โจม หนังใส่รายละเอียดได้ดีสมจริง ตื่นเต้น และชวนหวาดเสียวสุดๆ นั่งดูก็เกร็ง ลุ้นระทึก แถมฉากตุ๊งแช่ก็จังหวะดีเสียด้วยพาลหัวใจจะวาย ถือว่าหนังตอบโจทย์ความเป็นหนังฉลามที่เน้นความหวาดเสียว ลุ้นระทึกและการเอาชีวิตรอดของนางเอกด้วยของที่จำกัด และพื้นที่ก็จำกัด   ติดให้ *** ครึ่ง

               โมโน ฟิล์ม ส่งภาพยนตร์ฟีลกู๊ดที่คุณจะประทับใจยิ่งกว่าใน “Everybody Wants Some”(อยากได้มั้ย..ใครสักคน) ผลงานล่าสุดของ ริชาร์ด ลิงค์เลเตอร์ (Richard Linklater) คอหนังอินดี้รู้จักกันดี นำแสดงโดย เบลค เจนเนอร์, ไทเลอร์ ฮอชลิน  เรื่องของ เจค ที่เข้ามหาวิทยาลัยด้วยโควต้านักกีฬาเบสบอล และได้รู้จักเพื่อนร่วมทีมและรุ่นพี่ โดยเฉพาะรุ่นพี่ แมคเรย์โนลด์ ที่ไม่ชอบขี้หน้าเขา ทั้งหมดอาศัยร่วมกันในบ้านพักที่มหาวิทยาลัยไว้ หนังสะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตของวัยรุ่นชายที่แกล้งกันแรงๆ อำกันโหดๆ ปาร์ตี้กันยันเช้า ดูดกัญชา เที่ยวผับบาร์ หาหญิงมาฟันฯลฯ

               ซึ่งเป็นหนังที่ดูสนุกมาก ดูไปหัวเราะไปกับมุกบ้าๆ บอๆ หัวเราะกับวิถีวัยรุ่นที่วันๆ ไม่ต้องมีความรับผิดชอบอะไร สนุกสนานเฮฮา หาสาระอะไรไม่ได้ เป็นหนังดูเพลินๆ แต่จบแล้วก็ไม่มีอะไรให้จดจำ ส่วนตัวรู้สึกแปลกใจที่ ริชาร์ด ไม่สามารถทำหนังให้ได้ดีเท่าผลงานเก่าๆ ที่เคยทำมา คือมันไม่ได้แย่ แต่บทก็วางไว้หลวมๆ และตัวละครพยายามจะหาตัวตนของตัวเองให้เจอ แต่รู้สึกว่าไอ้พวกนี้มันแก่เกินจะเป็นเด็กแล้วล่ะ ไม่ได้รู้สึกว่าพวกนั้นจะค้นพบอะไรได้ในผับในบาร์ ยาเสพติด และจิตที่วันๆ คิดแต่จะฟันหญิง   ติดให้ ** ครึ่ง

               ก่อนอื่นต้องให้ข้อมูลว่า “The Legend of Tarzan” ฉบับนี้สร้างขึ้นมาจากหนังสือการ์ตูนของ Dark Horse Comics ไม่ใช่สร้างจากนิยายคลาสสิคต้นฉบับของ Edgar Rice Burroughs แต่จะว่าไปการ์ตูนมันก็แต่งเรื่องต่อมาจากนิยายนั่นแหล่ะ ซึ่งหนังนำแสดงโดยอเล็กซานเดอร์ สการ์สการ์ด รับบท จอห์น เคลย์ตัน / ทาร์ซาน และ มาร์โกต์ ร็อบบี ในบท เจน ร่วมด้วย ซามูเอล แอล แจ็กสัน, ไจมอน ฮอนซู โดยผู้กำกับ เดวิด เยตส์  เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นด้วย จอห์น เคลย์ตัน สุภาพบุรุษหนุ่มผู้ดีอังกฤษ ได้รับคำเชิญจากกษัตริย์แห่งเบลเยี่ยมให้กลับไปยังคองโกในฐานะผู้มีชื่อเสียงของโลก เมื่อเขาและ เจน ภรรยาสาวสวยตัดสินใจรับคำเชิญก็กลับต้องตกอยู่ท่ามกลางแผนของผู้แทนพระองค์ที่วางแผนจะทำการร้ายบางอย่างกับคองโก 

               หนังเล่าเรื่องตัดสลับเหตุการณ์ในอดีตกับปัจจุบันได้อย่างกลมกลืนและลื่นไหล คิดว่าแรกๆ ทุกคนคงเหวอที่อยู่ๆ เห็นทาร์ซานเป็นผู้ดีอังกฤษ แต่ไม่ต้องห่วง หนังจะค่อยๆ ให้ข้อมูลของตัวละครหลักๆ ภาพของหนังสวยมาก เห็นบรรยากาศทุ่งหญ้า Savannah และป่าทึบ Rainforest แบบสมจริงๆ ทั้งที่ถ่ายทำในโรงถ่ายอังกฤษล้วนๆ เป็นหนังผจญภัยที่ตัวละครทรงเสน่ห์ โดยเฉพาะพระเอก ส่วนนางเอกก็น่ารัก สวยหวาน ถือเป็นหนังที่มีครบรส สนุก ตื่นเต้น ลุ้นระทึก โรแมนติก ผจญภัย แอ๊คชั่น ทุกสิ่งอย่างได้รับการปรุงแต่งออกมาได้อรรถรสกลมกล่อมลงตัว  ติดให้ **** ครึ่ง

               “ICE AGE : COLLISION COURSE” อำนวยการสร้างโดย ลอรี ฟอร์เต กำกับโดย ไมเคิล เธอร์ไมเออร์   สานต่อความสนุกกันอีกครั้งกับภาค 5 ของก๊วนแสบแถบขั้วโลกในยุคน้ำแข็ง

เมื่อการตามล่าลูกโอ๊คของเจ้าสแครทสุดป่วนในเรื่องในห้วงอวกาศ นำสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ต่อโลก เมื่อเหล่าสัตว์แห่งดินแดนไอซ์เอจ อย่าง ช้างแมมมอธตัวขน“แมนนี่” กับ “แอลลี่”, เจ้าเสือเขี้ยวดาบ“ดีเอโก้” กับ“ชีร่า” และเจ้า “ซิด” สล็อธตัวยุ่ง ต้องเผชิญกับการโจมตีของอุกาบาตจากนอกโลก การผจญภัยที่แตกต่างไปจากเดิมจึงเริ่มต้น รวมทั้งเพื่อนใหม่แปลกตาอีกเพี้ยบ!!
                หนังทำออกมาได้สนุกสนาน ผจญภัย ช่วยกันหาวิธีทำลายอุกกาบาตตามความสามารถที่มีของแต่ละตัว เนื้อเรื่องไม่น่าเบื่อชวนติดตามตลอด เฮฮาขำๆ กราฟฟิก ก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่มาก เข้าใจเรื่องราวได้ง่าย บทภาพยนตร์ดี ทำให้คนที่ไม่เคยดูภาคก่อนๆ ดูรู้เรื่องได้สบายๆ  ติดให้ ***

               “Cell” หนังสร้างจากนวนิยายของ Stephen King เจ้าพ่อนิยายสยองขวัญ ที่พูดถึงคลื่นความถี่ลึกลับที่ส่งผ่านโทรศัพท์มือถือ แล้วทำให้คนกลายเป็นซอมบี้ ซึ่งหนังได้ 2 นักแสดงฝีมือคุณภาพ จอห์น คูแซ็ค และ ซามูเอล แอล แจ็กสัน  เป็นเรื่องราวของ Clay Riddell ที่ต้องการไปหาลูกชายที่นิวซีแลนด์ท่ามกลางโลกที่ตกอยู่ในความล่มสลาย และมีฝูงซอมบี้อยู่ทั่วไปหมด โดยมี Tom McCourt  

               หนังมีความพังมากถึงมากที่สุด ด้วยบทที่อ่อนยวบยาบไม่รู้ว่าจะเล่าเรื่องไปทางไหนดี เหมือนตัดสินใจไม่ถูก ก็เลยเล่าหว่านๆ ไปทุกทาง มันเลยออกมาไม่สุดสักทาง หนังเดินเรื่องตามขนบธรรมเนียมหนังซอมบี้ คือพูดถึงการเอาชีวิตรอดจากฝูงซอมบี้ในโลกที่ล่มสลาย และบางฉากเล่นกับความมืดที่มืดเกินจนดูไม่รู้เรื่อง คือหนังสือนิยายต้นฉบับนั้นดีมาก สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ มีประเด็นดีที่พูดถึงสังคมมนุษย์ในยุคปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่เสพติดโทรศัพท์มือถือ ก้มหน้าก้มตาอยู่กับมันเปรียบเสมือนซอมบี้ นั่นคือนิยาย ส่วนหนังนั้นไม่มีอะไรใกล้เคียงกับประเด็นนี้เลยแม้แต่น้อย   ติดให้ *ครึ่ง

            สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จับมือกับ บาแรมยู ภูมิใจเสนอภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แอ็คชั่นเหนือจินตนาการ วีรกรรมล้ำเลิศของวีรบุรุษผู้มุ่งมั่นทำความดีในนาม“ขุนพันธ์”  ผลงานกำกับของ  ก้องเกียรติ  โขมศิริ  ขนทัพนักแสดงแถวหน้ารวมตัวเป็นครั้งแรกนำโดย  อนันดา   เอเวอริงแฮม, กฤษดา สุโกศล แคลปป์, เดี่ยว- ชูพงษ์ ช่างปรุง, กบ- พิมลรัตน์  พิศลยบุตร, แฟรงค์- ภคชนก์  โวอ่อนศรี, สนธยา ชิตมณี,  กานต์พิสชา เกตุมณี  เรื่องราวของขุนพันธ์ รักษ์ราชเดช  ตำรวจมือปราบผู้หาญกล้าต่อกรกับขุนโจรมากหน้าที่อาละวาดปล้นสดมชาวบ้านในยุค 2480 จนได้มาพบ อัลฮาวียะลู  ขุนโจรใต้แห่งเทือกเขาบูโด ที่มีวิชาอาคมของขลัง ขุนพันธ์ต้องใช้ความสามารถอย่างหนักในการต่อกรกับมหาโจรนี้

               หนังทำออกมาได้ไม่ดีสมการรอคอย สิ่งที่ปรากฏในหนังพังพินาศย่อยยับ เพราะหนังอัดแน่นไปด้วยความไม่สมเหตุสมผล การตัดต่อที่แย่ การเล่าเรื่องไม่ประติดประต่อดูแล้วอึดอัด หงุดหงิด โดยเฉพาะเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ไม่แน่ใจว่าตอนเขียนบทค้นคว้ามามากแค่ไหน ทำไมถึงปล่อยไก่ตัวแล้วตัวเล่า เรื่องเกิดขึ้นในภาคใต้ ตัวละครบางตัวพูดแต่บางตัวก็ไม่พูด อีกทั้งโปรดั๊กชั่นก็ประดักประเดิดดูปลอม ดูราคาถูก ฉากตลาด ฉากเมือง หลายครั้งดูแล้วขัดใจ แต่อาวุธยุทโธปกรณ์ค่อนข้างทำการบ้านมาดี เพราะใช้กันจริงในยุคนั้น สำหรับนักแสดงโดยเฉพาะพี่น้อยจัดเต็มจนล้น ส่วนอนันดาเล่นดี ทำให้พอเชื่อได้ นี่เกิดอะไรกับผู้กำกับท่านนี้ที่ช่วงหลังๆ ไม่สามารถทำหนังอย่างที่เคยทำได้ดีสักเรื่อง ไม่ติด *

                คำถามหนัง“ขุนพันธ์” :  ใครรับบทขุนพันธ์?   

ทราบคำตอบเขียนชื่อ-ที่อยู่- เบอร์โทรศัพท์ลงในไปรษณียบัตร ส่งมาที่  หนังดังติดดาว  32/15  ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขต จตุจักร กรุงเทพฯ 10900   ผู้ตอบถูก 10  ท่าน ได้รับของรางวัลจาก  สหมงคล ฟิล์ม  (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)

              โคลัมเบีย พิคเจอร์ส, โซนี่ พิคเจอร์ส  ภูมิใจเสนอ "Ghostbusters (โกสต์บัสเตอร์ ) บริษัทกำจัดผี" ผลงานกำกับโดย  พอล ฟิ้ก  เขียนบทโดย เคที ดิปโปลด์ และ พอล ฟิ้ก“Ghostbusters - บริษัทกำจัดผี”  ซึ่งในเวอร์ชั่น 2016 นี้ ใช้นักแสดงนำหญิงเป็นตัวละครนำแทนนักแสดงชายจากฉบับดั้งเดิม แม้จะเป็นการสร้างใหม่ที่มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้เข้ายุคสมัย แถมใช้นักแสดงหญิงหมด แต่เค้าโครงเรื่องและรายละเอียดก็ยังรักษาไว้ซึ่งความเป็น Ghostbusters ไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์บริษัท หรือรถ Ecto-1 คันเก่าที่ให้อารมณ์ยุค 80 จ๋า ที่หลายคนคุ้นเคย
                ซึ่งหนังทำออกมาสนุกสนาน เฮฮา ตลก ภาพสวยงาม ชวนติดตามตลอดยันท้ายเครดิต เรียบเรียง เนื้อหาใหม่ที่เปลี่ยนเพศนักแสดงนำจากเดิม ชาย เป็น หญิง ทำให้สนุกแตกต่างไปจากเดิม บทภาพยนตร์ถือว่าดีเยี่ยม ในภาคนี้กราฟฟิก CG เหล่าผี ทำออกมาได้ทั้งน่ากลัวและสวยงาม ไปพร้อมๆ กัน นักแสดงนำทุกคนเล่นได้สนุกสนาน ตลก เฮฮา ได้อารมณ์มากๆ ดูได้ทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กน้อยยันผู้ใหญ่วัย 50 ที่ทันได้ดูหนังและการ์ตูน บริษัทกำจัดผี ยุค 80  ติดให้ **** ครึ่ง
               วู้ดดี้ อัลเลน(Woody Allen) ผู้กำกับจอมขยันแห่งวงการฮอลีวู้ดกลับมาอีกครั้งกับ “Cafe Society”  นำแสดงโดย เจสซี ไอเซนเบิร์ก, คริสเตน สจ๊วต, สตีฟ คาเรล  เรื่องราวรักสามเส้าในยุค 1930 อันเป็นยุคทองของฮอลีวู้ด บ๊อบบี้ ชายหนุ่มผู้อยากจะเป็นผู้จัดการดาราฮอลีวู้ด แต่ดันไปตกหลุมรักวอนนี่ เลขาสาวของฟีล ลุงผู้เป็นเจ้านายของเขา แต่วอนนี่ดันมีคนรักอยู่แล้วเป็นหนุ่มลึกลับที่ไม่เปิดเผยตัว  

               ซึ่งหนังหยิบยกเสน่ห์แบบ อัลเลน มาครบ ดนตรีแจ๊สฟรุ้งฟริ้ง บทสนทนาที่พูดกันเป็นต่อยหอย มุกตลกหน้าตายที่แฝงมาในบทพูดฯลฯ ทุกสิ่งอย่างที่แฟนๆ คิดถึงมีให้ดูหมดทุกอย่าง หนังพูดถึงประเด็นความรักได้อย่างแหลมคม พูดถึงความรักของวัยหนุ่มสาวที่หวือหวา และความรักของผู้ใหญ่ที่มีเหตุมีผล คนบางคนผ่านมาแต่ไม่เคยผ่านไป เมื่อคิดถึงใครคนนั้นขึ้นมาภาพความทรงจำในอดีตก็พรั่งพรูออกมาอีกครั้งได้ทุกทีสิน่า  ติดให้ ****

               “Lights Out” สร้างจากหนังสั้นที่ได้รางวัล Best Short และ Best Director จากงาน Bilbao Fantasy Film Festival เมื่อปี 2014 และได้มีการขยายความทำเป็นหนังยาวโดยผู้กำกับมือใหม่ David F. Sandberg  โดยแปะยี่ห้อเจ้าพ่อหนังผี  เจมส์ วาน เป็นโปรดิวเซอร์ ได้นักแสดง มาเรีย เบลโล​ เรื่องราวของ รีเบคกา หญิงสาวผู้ที่พยายามช่วย มาร์ติน น้องชายต่างพ่อที่ประสบกับเรื่องสยองขวัญ ซึ่งตัวเธอก็เคยประสบกับมันมาแล้วจนต้องหนีออกจากบ้าน ทิ้งแม่ไว้กับสิ่งนั้นโดยลำพัง

               ซึ่งไอเดียของการขายความสยองขวัญที่มากับความมืดและไปกับแสงสว่างนับได้ว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง จังหวะการหลอกล่อให้คนดูสะดุ้งถือว่าทำได้ดีในระดับที่คนดูกรีดร้องในโรงได้คนละหลายรอบ แต่สิ่งที่น่าผิดหวังคือ ความไม่สมเหตุสมผลของประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับสิ่งนั้น ถึงแม้ว่าจะมีเนื้อหาด้านมืดมาหนุน โดยเล่าเรื่องด้วยเทคนิคให้ดูน่าเชื่อถือ แต่ก็ยังเอาไม่อยู่ เมื่อสิ่งที่พยายามสร้างไม่สามารถทำให้คนดูเชื่อได้ พอถึงจุดไคลแมกซ์เลยไม่ฟินเท่าไร ถึงตอนจบได้ยินใครดูพูดว่า "อย่างนี้ก็ได้เหรอวะ" เออ เห็นด้วย ปูเรื่องมาเสียดิบดี จะจบก็ให้จบแบบง่ายๆ อย่างนี้มันดูถูกสติปัญญาคนดูกันมากเกินไป  ติดให้ *

               “A Bigger Splash” นำแสดงโดย ทิลด้า สวินตัน, แมทเธียส เชอร์นาร์ท, ราล์ฟ ไฟนส์, ดาโกต้า จอห์นสัน   เรื่องราวของร็อคเกอร์สาวรุ่นเดอะ มาริแอนน์ เลน เดินทางไปพักผ่อนที่เกาะพานเทลเลอเรีย เกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งในอิตาลี ร่วมกับ พอล แฟนหนุ่มรุ่นน้อง โดยหวังว่าจะเป็นการพักฟื้นตัวเองอย่างสงบ เพื่อเตรียมใจกลับไปทำงานเพลงอีกครั้ง แต่แผนของมาริแอนน์กลับต้องสะดุดเมื่อเธอได้เจอกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่าง แฮร์รี่ ชายผู้เป็นทั้งโปรดิวเซอร์และอดีตคนรักของเธอ แฮร์รี่ไม่ได้มาคนเดียวเขาพา เพเนโลปี ลูกสาวสุดเซ็กซี่มาพักผ่อนด้วย
               หนังทำออกมาได้ค่อนข้างน่าเบื่อ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เรื่องราวคนรักเก่ามาเจอกับคนรักใหม่ ซึ่งเป็นคนรู้จักกัน ชู้ๆ กิ๊กๆ แอบมีอะไรกันในที่ลับ แต่เปิดเผยโจ๋งครึม เต็มหน้าจอ ภาพออกแนวไม่ได้ทำให้ดูสวยงามเท่าไหร่ ดิบๆไปหน่อย ดูแล้วไม่ค่อยได้เกิดอารมณ์ เนื้อหายืดยาว น่าเบื่อ ไม่ค่อยตื่นเต้น แนวไร้สาระ บทภาพยนตร์ไม่ค่อยดี ทำออกมาไม่ได้ทำให้คนดูเกิดอารมณ์อยากติดตามต่อ นักแสดงนำเล่นได้พอใช้เทียบกับการเปลืองตัวต้องแก้ผ้าหลายฉากอยู่  ติดให้ *