ผลงานการแสดงเรื่องแรกหากแต่ฉายเป็นลำดับสองของนางเอกหน้าคม ยิ้มสวย  อ้อม - กานต์พิสชา เกตุมณี  ที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงรุ่นพี่มากฝีมืออาทิ  อนันดา  เอเวอริงแฮม, กฤษดา สุโกศล แคลปป์, เดี่ยว- ชูพงษ์ ช่างปรุง, กบ- พิมลรัตน์  พิศลยบุตร, แฟรงค์- ภคชนก์  โวอ่อนศรี, สนธยา ชิตมณี  ในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เกียรติประวัติเชิดชูคนดีเรื่อง“ขุนพันธ์”  กำกับโดย ก้องเกียรติ  โขมศิริ  ผลิตโดย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล   และ  บาแรมยู  โดยอ้อมเผยการแสดงและหนังสือที่อ่านช่วยผ่อนคลายอย่างยิ้มแย้ม

                “ครั้งแรกได้แสดงภาพยนตร์ จันดารา อ้อมได้ไปเรียนการแสดงกับหม่อมน้อย ก็เลยได้มีโอกาสเล่น ซึ่งเป็นซีนเดียวแล้วพอ แม่เบี้ย เป็นเรื่องแรกซึ่งเราเล่นเต็มเรื่อง อ้อมรู้สึกว่า  เฮ้ย! เราโชคดีมากที่เขาให้โอกาสเราได้เล่นภาพยนตร์เรื่อง“ขุนพันธ์”  เพราะว่านักแสดงพี่ๆ โห 6 คน(อนันดา, น้อย-กฤษดา, เดี่ยว- ชูพงษ์, กบ- พิมลรัตน์, แฟรงค์- ภคชนก์ , สน-สนธยา)  พวกพี่เขาผ่านงานแสดงมาตั้งกี่งานแล้ว และก็มีชื่อเสียง ศักยภาพเขาก็เต็มที่ เต็มร้อยแล้วเราใหม่อยู่คนเดียว ซึ่งพอได้มีโอกาสอ่านบท มีโอกาส เวิร์คช้อป ก็มีโอกาสได้ทำความรู้จัก พี่ๆ ทุกคนน่ารักมาก พี่โขมน่ารักมาก  ซึ่งพี่ๆ ไม่ได้กดดัน เขาให้โอกาสน้องแล้วให้คำแนะนำรุ่นน้องอย่างเรามากกว่า ก็เลยทำให้กองขุนพันธ์ เป็นกองที่อ้อมมีความสุขทุกครั้งที่ไปกองถึงแม้วันหนึ่งพี่เขาถ่ายแอ็คชั่นกันแบบ 5-6 ชั่วโมง แล้วอ้อมรอถ่ายซัก 3-4 ซีนแต่มันก็มีความสุขที่ได้ไป ซีนแรกที่อ้อมเริ่มถ่ายเป็นซีนอารมณ์เป็นตอนกลางคืนริมทะเล ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเลเป็นฉากที่เซ็ทขึ้นมาใหม่คนเข้าเยอะแยะไปหมด เป็นซีนที่ต้นเหตุเพราะพี่ชายเรา(สนธยา ชิตมณี) ที่ทำให้เกิดหายนะกับหมู่บ้าน  ตื่นเต้นพอสมควร และหนังเวลาถ่ายใช้เพียงกล้องเดียว ซึ่งวันนั้นกดดันมาก เรากลัวว่าจะทำให้คนอื่นช้า แต่หนูก็อินกับบทตอนนั้นด้วย อ้อมจะคิดว่าตัวเองเป็นคนๆ นั้นเลย แต่บางซีนอาจต้องให้ผู้กำกับช่วยบิ้วค่ะ  ในเรื่องเจอพี่น้อยแค่ครั้งเดียว แต่เราก็รับรู้ได้ถึงสปิริทของพี่น้อยที่เขาเต็มมาก เหมือนถ้าเล่นร้อยเขาก็เล่นล้านให้ แล้วก็รู้สึกขนลุก เราคิดว่าวันหนึ่งเรามีความอินในคาแรกเตอร์ได้เท่านั้น มันอาจจะประสบความสำเร็จได้ ส่วนพี่อนันดา พี่จ่อยเขาเป็นคนน่ารัก ถามว่าตื่นเต้นในการแสดง ตื่นเต้นแต่ว่าด้วยความเป็นคนสบายทำให้เราผ่อนคลาย  อ้อมเชื่อว่าคนรอดูภาพยนตร์เรื่องนี้เยอะมาก เห็นเฟสบุ๊คจะแชร์รูปเกี่ยวกับทีเซอร์เยอะมากเป็นเพราะท่านเลย คือใครที่ได้ศึกษาเรื่องราวของท่านจริงๆ จะรู้เลยว่าท่านเป็นตำรวจดีที่ปราบเสือในสมัยก่อนมาหลายคนคือ เหมือนเป็นไอดอลคนดีที่คนไทยรุ่นหลังๆ จะไม่รู้จักแล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคือใคร แต่คนที่ศึกษาเรื่องจตุคามหรือตำรวจเขาจะรู้จักกันเยอะ ตัวอ้อมไม่รู้จักแต่ได้อ่านหนังสือ รู้สึกเราดีนะที่ได้อยู่ในหนังเรื่องนี้  ผลงานเรื่องต่อไปเป็นละครเรื่อง“ระบำไฟ” ของ พี่หนุ่ม-กรรชัย กับ พี่เมย์ เฟื่องอารมณ์ ทางช่อง 8 อ้อมเซ็นสัญญากับสหมงคล แต่อ้อมคุยว่าถ้าเป็นละครอ้อมขออนุญาตไปเล่นนะ เราจะได้พัฒนาความสามารถ แล้วได้ไปเรียนรู้ทักษะทางการแสดงในอีกแบบหนึ่ง เพราะละครกับภาพยนตร์มันต่างกันค่ะ พอไปเล่นแล้วก็สนุกดีค่ะ มีความสุข(ยิ้ม) เรื่องระบำไฟบทมันดีมากจริงๆ อ้อมร้อยทุกคนเข้ามาไว้ด้วยกัน ซึ่งมันเป็นคาแรกเตอร์ที่อ้อมว่าสนุก เราได้เล่นย้อนกลับไป มันทั้งอิจฉา ดราม่า ร้องไห้ มีอยู่วันหนึ่งถ่ายเกือบ 30 ซีน ซึ่งร้องไห้เยอะเหมือนกัน มันเหนื่อย ปวดหัวเหมือนกัน เหมือนเราใช้สมองเยอะ คนปกติใครจะมานั่งร้องไห้ 30 อารมณ์ในหนึ่งวัน ไม่มีคะ แต่อ้อมว่ามันสนุกดี มันเป็นความท้าทาย เป็นสิ่งหนึ่งที่เราต้องพัฒนาทักษะในการแสดง อ้อมชอบที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆคะ

                หนังสืออ้อมจะอ่านก่อนนอนบ้าง เพื่อให้สมองมันหยุดโฟกัสที่งานอย่างตอนที่ถ่ายละครซีนร้องไห้กลับมาก็อ่านหนังสือ เหมือนหลุดโฟกัสกลับมาอยู่กับตัวเอง อ้อมจะอ่านหนังสือกับฟังเพลง การอ่านหนังสือทำให้ผ่อนคลายขึ้น บางวันถึงขั้นปวดหัว ถึงขั้นต้องกินยาแก้ปวดหัว อ่านหนังสือช่วยดึงเรากลับมา มีไปร้านหนังสือ อ้อมชอบอ่านGAME OF TRONES  คือ อ้อมชอบซีรีส์ที่ดังมาก ตอนนี้ Season 6 แล้ว ที่เลือกอ่านเพราะเรื่องนี้มันสนุกมาก อ้อมอ่านหนังสือเป็นซีรีส์ เป็นนวนิยาย ตอนนี้เริ่มอ่านแฮรี่ พอตเตอร์ เพื่อจะฝึกภาษาอังกฤษ เพราะอ้อมชอบหนังแฮรี่ พอตเตอร์ บางวันเคยเครียดก็เปิดแฮรี่ดูให้นอนหลับ อ้อมว่ามันใสๆ เด็กๆ เราก็ดูเพลินๆ ค่ะ แฮรี่ พอตเตอร์เป็นหนังสือที่ซื้อก่อน GAME OF TRONES ที่ซื้อเพราะชอบซีรีส์ เราก็อยากจะรู้ทุกตัวละคร ดีเทลในซีรีส์ก็เลยซื้อหนังสือมาอ่าน เพราะหนังสือจะมีตัวละครที่เยอะกว่าในซีรีส์ แล้วเนื้อหามันจะลึกกว่าก็เลยซื้อมาอ่าน อ่านแล้วมันเหมือนเราสนุก แล้วเราก็เพลิน อ้อมมองว่านี้เป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่งของอ้อมค่ะ  อ้อมมองว่ามันเป็นการฝึกสมาธิ อย่างหนึ่งนะคะ สำหรับการอ่านหนังสือ  หนังสือแน่นอนให้ประโยชน์ มันแล้วแต่ๆ ละคนเลือกมาอ่าน แต่อ้อมมองว่ามันเป็นการฝึกสมาธิ และอีกอย่างถ้าใครที่อยากจะฝึกการพูด การอ่านหนังสือดังๆ มันก็ช่วยได้ ก็อยากให้อ่านหนังสือเป็นการฝึกสมาธิอย่างหนึ่งด้วยค่ะ”