โลกยุค 4.0  ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมกำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและมีความเข้มข้นมากขึ้นเพราะการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มีความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ได้เริ่มส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนเราไม่มากก็น้อยแล้ว และไม่เพียงมีผลต่อวิถีชีวิตสังคม หากแต่ยังมีผลต่อเศรษฐกิจ  สิ่งแวดล้อม ฯลฯ  ดังนั้นรัฐบาลจึงกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจชาติด้วยนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ไปสู่ “Value–Based Economy” หรือ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
 

     ปัจจุบันจึงทำให้ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจท่องเที่ยว ฯลฯ ต่างตื่นตัวในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี มาปรับใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริการ ใหม่ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัลแล้วยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับหน่วยงานและองค์กรมากขึ้น และตัวอย่างธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านนวัตกรรมอย่างเห็นได้ชัดคือ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัย(โซลาร์รูฟท็อป) ซึ่งถือเป็นพลังงานสะอาด ที่อดีตเป็นเรื่องของคนรวยเท่านั้น  เนื่องจากค่าติดตั้งและค่าไฟที่ได้รับสูงเกินไปแต่ด้วยการคิดค้นอย่างต่อเนื่องทำให้เทคโนโลยี ล่าสุดต้นทุนลดต่ำลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง  ส่งผลให้ทั่วโลกเพิ่มสัดส่วนมาผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้น

       สำหรับประเทศไทยแล้วรัฐบาลได้มีการส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนมาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงโซลาร์รูฟท็อปจนขณะนี้ถือเป็นพลังงานที่กำลังมาแรง  เนื่องจากต้นทุนของแผงโซลาร์ที่ลดต่ำและมีประสิทธิภาพดีขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจ อาคารพาณิชย์ บ้านที่อยู่อาศัย มหาวิทยาลัย ต่างทยอยติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปมากขึ้นจนทำให้เกิดการผลิตไฟใช้เอง(IPS) จำนวนมาก และความเคลื่อนไหวล่าสุดของวงการโซลาร์รูฟท็อปที่น่าจับตาอย่างใกล้ชิด คือความร่วมมือข้ามสายธุรกิจระหว่าง “เสนา โซลาร์เอ็นเนอร์ยี่” ผู้ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปและโซลาร์ฟาร์ม ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบมจ.เสนาดีเวลลอปเมนท์ กับบริษัท รีฟินน์ อินเตอร์เนชั่นแนล ดอท คอม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อผ่านช่องทางออนไลน์ Refinn.com   ทั้งสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ สินเชื่ออเนกประสงค์บ้านแลกเงิน และสินเชื่อลดภาระหนี้ โดยหากลูกค้าที่ผ่อนบ้าน หรืออาคารพาณิชย์มาแล้ว 3 ปีคิดที่จะรีไฟแนนซ์บ้านแล้วนำเงินมาติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปหรือ EV Charger สามารถกรอกข้อมูลผ่านออนไลน์ www.Refinn.com จากนั้นจะมีการนำข้อมูลมาคำนวณเปรียบเทียบเพื่อนำเสนอโปรโมชั่นให้ลูกค้าอย่างเหมาะสมและหากมีวงเงินที่เหลือจากการรีไฟแนนซ์ก็สามารถนำมาผ่อนชำระในการติดตั้งโซลาร์หรือ EV Chargerได้ในอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 3.99% ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่นอกจากจะลดภาระดอกเบี้ยจากการรีไฟแนนซ์แล้วยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าที่มาจากโซลาร์รูฟท็อปหรือติดตั้ง EV Charger ในบ้านก็จะเพิ่มความสะดวกสบายสำหรับผู้นิยมขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย

      ออฟชั่นดังกล่าวถือเป็นการรุกตลาดการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปและEV Charger ให้กับผู้ที่กำลังผ่อนบ้านแต่ยังไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี   เพราะแน่นอนว่าภาระหนี้จากการผ่อนบ้านที่มีอยู่นั้นทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยหากจะไปขอกู้เงินจากธนาคารโดยตรงก็คงได้อัตราดอกเบี้ยประมาณ 9% ซึ่งเท่ากับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล ถือว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูง เนื่องจากไม่มีหลักค้ำประกันแต่ถ้าใช้บ้านเป็นหลักประกันในการกู้เงินหรือ บ้านแลกเงิน หรือการรีไฟแนนซ์ ก็จะทำให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงนั่นเอง
      นับเป็นการจับมือกันอย่างลงตัวของนวัตกรรมข้ามสายธุรกิจระหว่างพลังงานทดแทนที่กำลังเป็นเทรนด์ของโลกอย่างโซลาร์รูฟท็อปและ EV Charger ซึ่งดำเนินการติดตั้งโดยเสนา โซลาร์ เอ็นเนอร์ยี่กับ www.Refinn.com ซึ่งเป็นสตาร์อัพฟินเทคธุรกิจบริการค้นหาข้อมูลสินเชื่อออนไลน์ที่เพิ่งเปิดตัวได้ประมาณ 2 ปี แต่มีผู้เข้าชมเว็บไซต์แล้วกว่า 1 ล้านราย จึงถือเป็นสัญญาณให้เห็นถึงตลาดโซลาร์รูฟท็อปในไทยกำลังเดินตามรอยประเทศพัฒนาแล้วที่หันมาติดตั้งจำนวนมาก
      นวัตกรรมเปลี่ยนโลกหรือ “Disruptive Technology” ที่จะทำให้ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีแบบเดิมๆ ล้มหายตายจากไปกำลังเป็นคำฮิตที่แวดวงธุรกิจและทุกภาคส่วนต่างตื่นตัวกันมากด้วยเพราะยุคดิจิทัลที่มาเร็ว ดังนั้นการตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุค 4.0 จึงต้องเริ่มต้นจากตัวเราเองไม่ใช่ใครอื่นซึ่งจำเป็นจะต้องเปิดใจเรียนรู้ ทำความเข้าใจและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ให้ได้และที่สำคัญต้องไม่เสียโอกาสที่จะใช้การเปลี่ยนแปลงนี้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด