กว่าจะมาเป็นโค้ชเคี้ยงที่พ่อแม่ภูมิใจทุกวันนี้ ต้องเสียใจมานับไม่ถ้วน



จากเด็กติดเกมจนพ่อแม่ต้องส่งไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ก็คว้าน้ำเหลวกับมา และยังโดนไล่ออก วันหนึ่งกลับมามองตัวเองกับความไร้ค่าทั้งติดเกมแถมยังอ้วนจนเกลียด แถมยังผิดหวังในความรัก จนได้พบหลักธรรมคำสอนจากผู้ใหญ่ ทำให้มีสติมากขึ้น  มุ่งหวังที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ของตัวเองในรูปแบบโค้ช ที่หลายคนรู้จัก “โค้ชเคี้ยง”กับโครงการ “ธรรมะชนะอ้วน”

             โค้ชเคี้ยง เอกภพ คุณากรไพบูรณ์ศิริ แม้จะอยู่ในสถานที่เรียนระดับท็อป5 ของประเทศอังกฤษ แต่ก็ไม่สามารถสร้างโอกาสที่พ่อแม่พยายามทุ่มเทกับการเรียน แม้ว่าจะหมดเงินไปเป็น 10 ล้านบาท ก็ยังคว้าน้ำเหลวกับความเสียใจกับมาให้พ่อแม่

              ตอนที่โค้ชเคี้ยงในวัยรุ่น เมื่อกว่า 13 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะได้เงินไปโรงเรียนเท่าไหร่ก็หมดกับการเล่นเกม พ่อแม่พยายามถึงผมออกจากเกม แต่ด้วยคำว่า “เด็กติดเกม” จนทำให้พ่อเครียดจนป่วย ในขณะนี้ผมรู้สึกว่าเป็นคนทำให้พ่อเป็นเช่นนี้หรือเปล่า กลัวพ่อตาย แล้วผมจะทำอย่างไร  ผมได้คิดว่าพ่อแม่ทำทุกอย่างเพื่อเรา ไม่เคยที่จะไม่ดุด่าว่ากล่าวแม้ว่าเราจะทำตัวไม่ดี จนรู้สึกว่าเราเป็นลูกที่ไม่ดีเลย กลับมาแก้ตัวอีกครั้ง หลังจากที่คิดว่าถ้าไม่มีพ่อแล้วจะทำอย่างไร แต่ก็ยังมีเรื่องให้เสียใจแทบบ่า หมดหวัง หมดกำลังใจ มองตัวเองเหมือนคนไร้ค่า จนต้องพึ่งพาต้านความเศร้า  7 ปีที่ยังต้องอยู่กับการใช้ยาต้านความเศร้าคิดมากแถบจะฆ่าตัวตาย คำที่ได้ยินเมื่อพ่อโทรหา ประโยค “เคี้ยงป๋ารักเคี้ยงนะ” ผมตอบไปว่า “ผมก็รักป๋า”

            คิดว่า“เคี้ยงป๋ารักเคี้ยงนะ”ทำให้ผมหยุดที่จะคิดฆ่าตัวตาย กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

              จากความกดดันที่ตัวเองเป็นคนเหลวไหล ไม่เอาดีซักอย่าง ติดเกม เรียนไม่จบ บวกกับที่เห็นตัวเองดูไม่ได้ อ้วนบวม ดูแล้วไม่มีอะไรซะอย่าง และยังเกือบเป็นโรคเบาหวาน ในวัย 25 ปีที่มีรูปร่างอ้วนเกินจนรับตัวเองไม่ได้ คิดแต่ไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้ แต่ได้ยินเสียงแว่วมาจากไหนไม่รู้ว่า  "ไหนๆจะตายแล้ว ทำไมไม่สู้เต็มที่ แลกเลย ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ถ้าแพ้แล้วค่อยกลับมาตายที่หลังได้" นี้คือจุดเปลี่ยน !!(turning point) ผมก็คิดว่า "เออ ก็จริง สู้เลย ไป ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว เผื่อชนะ เผื่อทุกอย่างจะเปลี่ยนได้!!!"

               ผมเลยนั่งคิดว่า ทำไม 7 ปีผมลด น้ำหนักไม่ได้สุดท้าย ตกผลึกว่าลดน้ำหนักต้องเริ่มด้วยใจ ไม่ใช่ความรู้ ว่ากินอะไรเพราะผมรู้หมดแต่ผมอดไม่ได้ ผมเลยใช้ธรรมะที่ผมชอบมาตั้งแต่เด็ก เวลาไปอังกฤษผมจะแบกหนังสือธรรมะไปเป็นสิบเล่มไปอ่าน ผมนั่งวิเคราะห์จริงๆจังๆ และลงมือทำ ทำให้ผมลดน้ำหนักได้ 32 กก ในระยะเวลา 6 เดือน หายซึมเศร้า เลิกติดเกม ชีวิตเกิดใหม่อีกครั้งด้วยธรรมะ วันหนึ่งพ่อเรียกให้ผมไปส่งที่ รพ ปรากฏว่า หมอบอกให้พ่อลดน้ำหนักๆๆ และที่ รพ ผมสังเกตเห็นคนป่วยตามห้องต่างๆ น้ำหนักเกิน ผมเลยอยากถ่ายทอดวิธีลดน้ำหนักด้วยใจ ไม่ใช้ยา หรือตัวช่วย ผมหงุดหงิดที่เห็นคนไปลองทางผิดเหมือนตัวผมสมัยก่อนที่กินยาลดน้ำหนัก กินอาหารเสริมต่างๆ แต่ใจไม่เปลี่ยนคือ กินข้าวเท่าเดิม น้ำหนักเลยไม่ลง!!

             ผมเริ่มด้วยเปิดสัมมนา ผอมด้วยใจ และผมขาดทุน ตอนหลังผมมาจัดสัมมนา ชวนคนไทยลดน้ำหนัก 60 ล้าน กิโลเพื่อพ่อก็เงียบอีกไม่มีคนมาร่วม และเพื่อนผมว่าลับหลังว่า "ผมบ้า" "คิดใหญ่เกิน" "เป็นไปไม่ได้หรอก" แม้แต่แม่ยังบอกผมว่า "สิ่งที่เคี้ยงทำมันเพ้อเจ้อ" ผมดิ้นรนสู้ตั้งนานไปไม่ถึงไหน เลยถอยมาหยุดคิด และสรุปว่า ผมต้องหาที่ปรึกษามาช่วย นั้นคือจุดเปลี่ยนทีสอง ผมเปิดออฟฟิศแรกใน 3 เดือนก็เจ้ง พนักงานออกหมด ขาดทุนไปหมด ไหนจะค่าเช่า ค่าอุปกรณ์ คอมต่างๆ โต๊ะผมที่ซื้อมา ไม่สร้างรายได้เลย ผมหาที่ปรึกษาไป เกือบ 10 คน ในที่สุดผมได้เจอ พี่ท่านหนึ่งที่ช่วยมูลนิธิพระดาบสโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พี่คนนี้ใจดี มีคุณธรรม ช่วยโครงการในหลวงต่างๆแบบสุดแรงเกิด แรกๆพี่ท่านนี้ไม่อยากช่วยผมเลย บอกว่า"ผมพูดไม่รู้เรื่อง จะมาเป็นโค้ชอีก การโค้ชชิ้งคนไทยก็ไม่รู้จัก" ตอนหลังพี่ท่านนี้มาเจอพ่อแม่ผมที่ทำการกุศล ไปช่วยชาวเขาทุกปีที่ภาคเหนือ พี่เค้ารักแม่ผมเลยยังความเมตตามาถึงผมด้วย พี่"ยอม" เพราะแพ้ใจแม่ผม บวกกับพี่ท่านนี้กตัญญูต่อแม่ตนเองมากๆ เห็นว่าแม่ผมรักลูกมาก และโครงการที่ผมทำมีประโยชน์เลยมาสนับสนุน แม้จะมีคนมากมายบอกพี่ว่า "อย่าไปช่วยเคี้ยงเลย ปั้นไม่ขึ้น เสียเวลา" 

             พี่แมวบอกว่า "เคี้ยงไม่กตัญญู ไม่ปฏิบัติดีต่อพ่อแม่มากพอ" เลยบุญมี แต่กรรมบัง ติดกรรม ติดเวร เจ้ากรรมนายเวรเลยมาขัดขวาง พี่แมวสอนผมมากกว่า การพูด การทำงาน การจัดสัมมนา คือ กตัญญู พี่เค้าจะเน้นๆๆ จนผมรับเค้าเป็นแม่คนที่สองและยังเรื่องความรักที่ทำให้ทุกข์ แต่ยังมีเพื่อนที่ดีให้กำลังใจ คนวันนี้กลายเป็นคนรู้ใจกลายเป็นคู่ครอง  ปิติพร (จุ๋ม) กับอาชีพคุณเป็นหมอที่ รพ ศิริราช  

              ความทุกข์ ความเศร้า ปัญหาที่เกิดกับเรา แล้วมีวิธีไหนจะทำให้สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้หมดไป ปลดปล่อยความทุกข์ ด้วยเหตุนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือ การทำการกุศล อุทิศให้กับการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และการที่จัดโครงการ “ธรรมะชนะอ้วน”ที่เสถียรธรรมะสถาน เพราะแม่ผมรู้จักท่านมานาน ผมก็รู้จักและเราเคยทำงานบุญ "สร้างยอดฉันท์เจดีย์พุทธคยา" ที่ประเทศอินเดีย ผมก็เจอท่านแม่ชีศันสนีย์ คอยสั่งสอนธรรมะ จนผมสนิทกับที่ดี วันหนึ่งผมเล่าเรื่องโครงการชวนคนไทยลดน้ำหนัก 60 ล้านกิโลเพื่อพ่อ ผมลุ้นในใจว่า ท่านจะอนุญาตให้ใช้สถานที่หรือไม่  สุดท้ายท่านยินดีช่วยอย่างมากๆ ผมสัมผัสถึงเมตตาจากท่านได้ แบบล้น ผมซาบซึ้งมากที่ท่านมาช่วยผมแบบเต็มใจ และอีกครั้งเพราะท่านรักคุณแม่เพียงเพ็ญและที่สำคัญเพราะแม่ผมที่สนิทกับท่าน ท่านจึงอนุญาตให้ใช้สถานที่ได้ ผมคิดว่าที่ผมโตมาจนถึงวันนี้มีครอบครัว พ่อแม่ที่ช่วยเหลือคอยประคอง ทำทุกอย่างเพื่อผม สิ่งที่ผมทำได้ในวันนี้ต้องทำดีเพื่อท่านเช่นกันไม่ว่าจะในรูปแบบไหนก็ตาม